ประวัติกติกาการเล่นฟุตบอล

เกมกีฬาการแข่งขันฟุตบอล ถือว่าเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมาทุกยุคทุกสมัย หากจะนับกันจริงๆ เป็นระยะเวลาจำนวนปีนั้นกีฬาชนิดนี้ก็มีมาไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบปีได้แล้ว

ซึ่งต้นกำเนิดของกีฬาฟุตบอลนั้น อยู่ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้คิดค้นและก่อตั้งกีฬานี้ให้เป็นอาชีพอยู่ในอย่างปัจจุบันอย่างแท้จริง โดยตั้งแต่เมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้วการแข่งขันกีฬาชนิดนี้ได้มีการพัฒนารูปแบบการแข่งขันกันตั้งแต่เป็นระบบเจอกันแล้วแพ้คัดออก จนมีการจัดการแข่งขันกันเพื่อชิงถ้วย

จวบจนกลายเป็นกีฬาของแต่ละประเทศชาติที่มีการจัดการแข่งขันกันแบบระบบพบกันหมด หรือที่เรียกว่าลีกนั่นเอง ซึ่งจากสาเหตุที่ต้องมีการจัดการแข่งขันในลักษณะแบบพบกันหมดขึ้นมานั้นก็เนื่องมาจากมีจำนวนทีมฟุตบอลที่เพิ่มมากขึ้นๆเรื่อยๆในแต่ละปี จนไม่สามารถที่จะรองรับการแข่งขันในทัวร์นาเมนเดียวได้

ซึ่งการแข่งขันแบบนี้จึงกลายเป็นที่นิยมและชื่นชอบของคนแต่ละประเทศ โดยเมื่อก่อนแต่เดิมทีนั้น การเตะฟุตบอลนั้นก็เป็นเพียงแค่หาลูกกลมหนึ่งลูก และแบ่งผู้เล่นให้เท่ากันทั้งสองฝ่าย และแย่งกันเพื่อเตะลูกบอลเข้าไปในประตูของทีมฝ่ายตรงข้าม แต่พอทุกอย่างเริ่มเป็นระบบมากขึ้น จึงมีการระบุการเล่นของกีฬานี้ไว้อย่างชัดเจน โดยยึดเป็นกติกาสากลที่ใช้กันสำหรับการเล่นฟุตบอลทั่วโลกนั่นก็คือ

ในส่วนของสนามการแข่งขันนั้น จะต้องเป็นหญ้าจริงหรือหญ้าเทียม เท่านั้น เพื่อป้องกันการบาดเจ็บของผู้เล่น และความยาวของสนามต้องมีความยาวตั้งแต่ หนึ่งร้อยถึงหนึ่งร้อยสามสิบหลา ส่วนความกว้างต้องกว้างห้าสิบถึงหนึ่งร้อยหลา

และให้แบ่งเขตแดนของแต่ละทีมให้เท่ากัน โดยมีประตูของแต่ละฝ่ายอยู่ที่กว้างแปดฟุตและสูงแปดฟุต และมีเส้นกรอบเขตโทษห่างจากประตูอยู่ที่สิบแปดหลา ส่วนผู้เล่นที่จะทำการลงสนามนั้นจะต้องมีฝ่ายละ สิบเอ็ดคน

โดยหนึ่งในสิบเอ็ดคนนั้นจะต้องมีหนึ่งคนที่ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาประตู คือสามารถที่จะใช้ทุกส่วนของร่างกายป้องกันไม่ให้ลูกฟุตบอลเข้าไปในประตูของตัวเองได้ แต่การใช้มือหรือแขนนั้นจะต้องอยู่ในกรอบเขตโทษเพียงเท่านั้น

ส่วนลูกฟุตบอลที่ใช้ต้องมีเส้นรอบวงไม่เกินยี่สิบเจ็ดหรือยี่สิบแปดนิ้วและมีน้ำหนักไม่เกินสี่ร้อยถึงสี่ร้อยห้าสิบกรัม ส่วนเวลาที่ใช้กำหนดการแข่งขันคือ แบ่งเป็นสองช่วงเวลาช่วงละสี่สิบห้านาทีโดยฝ่ายใดทำประตูได้เยอะกว่าจะเป็นฝ่ายชนะการแข่งขันไป

 

สนับสนุนโดย  v9bet