Doppelgangerหรือร่างแยกของตัวเอง

ถ้าหากว่าใครได้เห็นDoppelgangerหรือร่างแยกของตัวเองแล้วคนๆนั้นจะถึงฆาตในไม่ช้า

เวลาที่เราได้พูดถึงความเชื่อหรือรางบอกเหตุหรือรางร้ายหรือลางสังหรณ์มันมีความเชื่อในเรื่องนี้อยู่ทั่วโลก ซึ่งในแต่ละที่นั้นมันก็จะมีความเชื่อที่มีความแตกต่างกันออกไป โดยในประเทศเราจะมีความเชื่อว่า ถ้าหากว่าเรานอนฝันเห็นคนๆนึงมาหาหรือเห็นคนๆนั้นเกิดอุบัติเหตุ

อยู่ในความฝันของเราหรือในบางทีมีข้าวของชิ้นสำคัญของของบุคคลคนนั้นหรือรูปภาพคนๆนั้นหล่นแตกเราก็จะมีความรู้สึกแล้วก็มีความเชื่อว่าคนๆนั้นกำลังจะมีลางร้ายหรือมีเหตุร้ายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งในต่างประเทศเขาก็มีอยู่เช่นกัน โดยต่างประเทศก็ได้เรียกสิ่งๆนี้

ว่าDoppelgangerซึ่งในคำว่าDoppelgangerมันมาจากภาษาอังกฤษอยู่สองคำคือคำว่าDoppelกับgangerแล้วถ้าหากนำเอาสองคำนี้มารวมกันก็คือDoppelganger,แฝดปีศาจนั้นเองโดยคำว่าDoppelgangerที่เราได้พูดถึงตรงนี้มันได้เป็นคำที่ได้เอาไว้ใช้เรียกบุคคลคนหนึ่ง

ที่ปรากฎตัวตนออกมาเพิ่มอีกหนึ่งตัวตนโดยที่ยังมีตัวตนบุคคลคนนั้นอยู่บนโลกแต่ตัวตนที่ได้มีเพิ่มขึ้นมาตรงนี้มันไม่ใช่ตัวตนที่เกิดขึ้นมาจากการที่แสงแดดลงกระทบลงมาที่ร่างกายและเกิดเป็นเงาขึ้นมาแต่มันได้เป็นบุคคลคนนั้นจริงๆ

ซึ่งตัวตนที่ได้เกิดขึ้นมาตรงนั้นมันได้มีข้อที่แตกต่างกับร่างจริงอยู่หนึ่งอย่างนั่นก็คือDoppelgangerหรือร่างที่มันได้เกิดขึ้นมาตรงนั้นจะไม่พูดและไม่สือสารอะไรกับใครเลยและ ถ้าหากตัวตนที่ได้มีเพิ่มขึ้นมาตรงนั้นไปอยู่ตรงหน้ากระจกหรือส่งที่มันสามารถที่จะสะท้อนภาภพได้ภาพที่ออกมามันจะไม่มีเงาหรือตัวตนคนนั้นอยู่ในกระจกนั้นเอง

ซึ่งเหตุการณ์ที่ได้พบเจอDoppelgangerหรือตัวตนอีกตัวตนขึ้นมาตรงนี้ในอดีตที่ผ่านมาก็ได้มีการค้นพบเจอและได้มีการบันทึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ในปี1905 ได้มีการนับประชุมกันระหว่างสมาชิกวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักร

โดยการประชุมในครั้งนั้นก็ได้มีสมาชิกคนหนึ่งที่มีชื่อว่าGilbert Parkerได้เข้าร่วมการอภิปรายในครั้งนั้นและเป็นคนที่จดเช็คชื่อว่าใครจะมาเข้าประชุมใครลา ซึ่งในการประชุมในครั้งนั้นได้สมาชิกวุฒิสภาคนหนึ่งที่มีชื่อว่าSir Frederick Carne Rasch

เขาได้มีอาการป่วยแล้วเขาได้ส่งหนังสือแจ้งขอลามากับทางGilbert ParkerและGilbert Parkerเองเขาก็ได้รับทราบเรื่องและคิดว่าเขาคงไม่สามารถที่จะเข้ามาทำงานได้

 

สนับสนุนโดย  bk8

ตำนานถ้ำพระนาง จังหวัดกระบี่ 

         สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่นั่นก็คือพระนางซึ่งเป็นสถานที่ที่ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างพากันกราบไหว้บูชาและขอพรโดยที่นี่ชาวบ้านมักจะนำปลัดขิกไปถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บริเวณหาดถ้ำพระนางเนื่องจากว่ามีความเชื่อกันว่ามีวิญญาณของหญิงสาวคนหนึ่ง

สิงสถิตอยู่ในถ้ำแห่งนี้ชาวบ้านให้มีการตั้งศาลเพียงตาไว้เพื่อให้หญิงสาวคนนั้นได้อยู่ที่ศาลเพียงตาแห่งนี้รอคอยช่วยเหลือปกปักรักษาชาวบ้านในจังหวัดกระบี่ซึ่งถ้าหากชาวบ้านคนไหนที่จะมีการออกเรือไปหาปลาแล้วก็มาขอพรที่ศาลเพียงตาแห่งนี้เพื่อขอให้ตนเองนั้นแคล้วคลาดปลอดภัย

จากอันตรายและกลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัยสำหรับข่าวถ้ำผานางนั้นจะอยู่ตรงบริเวณหาดไร่เลย์ซึ่งที่หาดแห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่ชอบความเงียบสงบจะมาเที่ยวกันที่นี่เนื่องจากน้ำทะเลจะใสและมีความสงบแล้วยังมีสารศักดิ์สิทธิ์ให้นักท่องเที่ยวนั้น

มากราบไหว้ขอพรอีกด้วยสำหรับเรื่องราวความรักของตำนานถ้ำนางแห่งนี้เกิดขึ้นโดยมีตำนานเล่ากันต่อต่อกันมาว่าเมื่อหลายพันปีมาแล้วมีสามีภรรยาคู่หนึ่งแต่งงานอยู่กินด้วยกันมานานหลายปีแต่ทั้งคู่นั้นก็ไม่มีลูกทั้งคู่จึงได้ไปทำการร้องขอ ลูกจากทางพญานาค  และเมื่อพญานาคตกลงตัดสินใจที่จะมอบลูกให้โดยจะมอบเป็นบุตรสาวให้และมีเงื่อนไขว่าเมื่อหญิงสาวคนดังกล่าว

โตขึ้นมาจะต้องมาแต่งงานกับลูกของพญานาคซึ่งเป็นผู้ชายซึ่งสองสามีภรรยานั้นก็ตกลง แต่แล้วเมื่อหญิงสาวคนดังกล่าวโตขึ้นมาเธอกลับไม่ยอมแต่งงานกับลูกของพญานาคเธอกลับไปพบรักกับคนอื่นและแต่งงานกับคนอื่นทำให้พญานาคโกรธมากที่หญิงสาวไม่รักษาสัญญาจึงได้ขึ้นมาจากเมืองบาดาลและทำลายพิธีแต่งงานซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น

ทำให้พระฤาษีตนหนึ่งที่บำเพ็ญเพียรอยู่ในถ้ำต้องออกมาเจรจาห้ามปรามแต่ทั้งฝ่ายที่เป็นมนุษย์กับฝ่ายที่เป็นพญานาคนั้นไม่มีใครฟังคำห้ามปรามของฤาษีเลยทำให้พระฤาษีนั้นได้ๆคาถาสาปให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นหินทั้งหมดรวมถึงสาปเรือนหอของหญิงสาวกลายเป็นถ้ำซึ่งต่อมาท่านที่ผลิตสีสาปนั้นก็คือถ้ำพระนางนั้นเองสำหรับความศักดิ์สิทธิ์ของธนาคารนั้นมีการเล่าขานมาจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแถวนั้นว่าเคยมีชาวประมงได้ไปหลบฝนอยู่ในถ้ำ

ดังกล่าวแล้วพบเห็นวิญญาณของหญิงสาวคนหนึ่งวนเวียนอยู่ภายในถ้ำซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าวิญญาณหญิงสาวคนนั้นคือวิญญาณของหญิงสาวที่เคยผิดสัญญากับพญานาคนั่นเองดังนั้นชาวบ้านจึงได้พากันตั้งศาลเพียงตาขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่สิงสถิตย์ของวิญญาณของหญิงสาวคนดังกล่าวและนับตั้งแต่นั้นได้มาชาวบ้านก็มักจะมากราบไหว้ขอพร

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน ไม่ผ่านเอเย่นต์

เรื่องราวความรักกับตำนานรักสะพานสารสิน 

         สะพานแห่งความรักสารสินนี้อยู่ที่จังหวัดภูเก็ตเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นนี้เป็นความรักของหญิงสาวกับชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งไม่สมหวังในรักจึงได้ตัดสินใจพากันมากระโดดน้ำและเสียชีวิตด้วยการจมน้ำทั้งคู่โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในปีพศ 2516

โดยวันที่เกิดเหตุนั้นตรงกับวันที่ 22 เดือนกุมภาพันธ์สำหรับเรื่องราวความรักที่เป็นโศกนาฏกรรมแห่งความรักในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อมีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่าโกดำ  แซ่ตัน  เขาเป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีฐานะยากจนประกอบอาชีพขับรถสองแถวอยู่ในจังหวัดภูเก็ต

ในขณะฝ่ายหญิงนั้นชื่อว่า กิ๋ว  กาญจนา แซ่โง้ว  ทั้งคู่เป็นคนตำบลท่าฉัตรไชยหลังจากที่ทั้งคู่ได้พบรักกันนั้นทั้งคู่ก็ร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคมาโดยตลอดโดยอุปสรรคของคนทั้งคู่นั้นก็คือพ่อของ  กิ๋ว  กาญจนา นั่นเองเนื่องจากว่า  กิ๋ว  กาญจนา นั้นเป็นลูกสาวของคนที่มีฐานะร่ำรวยส่วนฝ่ายชายนั้นมีฐานะยากจนจึงทำให้ครอบครัวของฝ่ายหญิงนั้นรังเกียจและไม่ว่าโกดำ

จะพยายามพิสูจน์ตัวเองอย่างไรก็ตามแต่ก็ไม่ทำให้ครอบครัวของฝ่ายหญิงนั้นชอบขึ้นมาได้เลยยิ่ง  กิ๋ว  กาญจนา ลักลอบออกมาพบเจอกับโกดำและพ่อของ กิ๋ว  กาญจนาจับได้เมื่อไหร่  กิ๋ว  กาญจนา ว่าจะถูกผู้เป็นพ่อนั้นพบปีและทำร้ายร่างกายเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง

โดยพ่อของกิ๋วนั้นต้องการที่จะให้   กิ๋ว  กาญจนา แต่งงานกับชายหนุ่มที่มีฐานะร่ำรวยแต่เธอก็พยายามบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดเนื่องจากเธอรักมั่นอยู่กับโกนำนั่นเองแล้วถึงแม้ว่าเธอจะเรียนจบมีงานทำจากนักศึกษามหาวิทยาลัยครูมาเป็นคุณครูแล้ว

ก็ตามซึ่งใช้ระยะเวลาหลายปีมากแต่ก็ไม่ได้ทำให้พ่อของ กิ๋ว  กาญจนารู้สึกชอบกดดันขึ้นมาบ้างเลยในขณะที่คนอื่นในครอบครัวของ กิ๋ว  กาญจนา เริ่มมองเห็นความรักที่มั่นคงของคนทั้งคู่จึงได้พยายามโน้มน้าวจิตใจพ่อของ กิ๋ว  กาญจนา ให้ยอมรับกับความรักของเธอและก็ดำแต่อย่างไรก็ตามแต่พ่อของ กิ๋ว  กาญจนา ก็ไม่ได้สนใจและยังหวังที่จะให้ลูกสาวของตนนั้น

ไปแต่งงานกับคนรวยอยู่ดีจนในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานโกดำและ กิ๋ว  กาญจนา เห็นแล้วว่าต่อให้พวกเขาต่อสู้กับอุปสรรคมากมายแค่ไหนคนในสังคมยอมรับเขามากแค่ไหนแต่มี 1 คนที่ไม่ยอมรับความรักของพวกเขานั้นก็คือพ่อของ กิ๋ว  กาญจนา นั่นเองพวกเขาทั้งคู่ก็จะไม่สามารถครองคู่ด้วยกันได้อยู่ดีดังนั้นในที่สุดแล้วทั้งโกดำและ กิ๋ว  กาญจนาจึงได้ตัดสินใจที่จะมากระโดดน้ำฆ่าตัวตายร่วมกัน

โดยวันที่ทั้งคู่มากระโดดน้ำนั้นทั้งคู่ได้นำผ้าขาวม้ามามัดไว้ที่เอวของคนทั้งคู่เพื่อไม่ให้พลาดจากกันเมื่อเวลาตกลงไปในน้ำและเมื่อทั้งคู่กระโดดลงไปในน้ำและเสียชีวิตมีชาวบ้านเข้ามาช่วยเหลือก็พบว่าศพของทั้งคู่นั้นยังคงกอดกันอยู่และมีผ้าขาวม้ามัดล่างเอาไว้และนั่งแต่นั้นเป็นต้นมาที่สะพานแห่งนี้จึงเป็นสะพานแห่งความรักที่คนรู้จักกันถึงตำนานแห่งความรักที่ไม่สมหวังของคนทั้งคู่นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์

ตำนานผีตีนเดียว

   ดงพญาไฟคือป่าดงดิบที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งป่าในดงพญาไฟนี้มักจะมีสัตว์ป่ามากมายหลายชนิดที่อาศัยอยู่และแน่นอนไม่ใช่เฉพาะแค่สัตว์ป่าเท่านั้นชาวบ้านต่างก็ร่ำลือกันว่าป่าที่ดงพญาไฟแห่งนี้มักจะมีสิ่งเล้นลับที่น่ากลัวอาศัยอยู่ด้วย

ในสมัยก่อนนั้นสมัยที่ยังไม่มีถนนตัดผ่านหาคนจังหวัดนครราชสีมาอยากจะเดินทางไปที่จังหวัดสระบุรีพวกเขาจะต้องมีการเดินผ่านป่าตรงบริเวณดงพญาไฟซึ่งจะต้องเป็นการเดินทางเท้าเท่านั้นเพราะยังไม่มีรถราเส้นระหว่างจังหวัดนครราชสีมาไปจังหวัดสระบุรีนั้นต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางนานมากเนื่องจากเป็นการเดินเท้า ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 2-3 วันเลยทีเดียวและแน่นอนว่าถ้าต้องใช้เวลาในการเดินทางนานขนาดนี้ย่อมต้องมีการพักค้างแรมภายในป่า

แล้วก็มีเรื่องเล่าจากชาวบ้านที่เคยเดินทางไปค้างอ้างแรมในป่าโดยพูดถึงเรื่องของผีตีนเดียวซึ่งลักษณะของผีตีนเดียวนั้นก็คือมันจะเป็นผีที่มักจะกระโดดไปมาเพราะมันมีขายอยู่ข้างเดียวนั่นเอง ซึ่งชาวบ้านเล่ากันว่าหากเข้าป่าเมื่อไหร่ก็ตามให้มีการก่อกองไฟเอาไว้ให้มีแสงโชติช่วงอยู่ตลอดเวลาอย่าปล่อยให้ไฟดับเป็นอันขาดเมื่อไฟดับเมื่อไหร่ผีตีน

เดียวก็จะเข้ามาหาผู้คนทันที ซึ่งถ้าหากเราไม่จัดเวรยามเฝ้าไว้แล้วก็เกิดไฟดับขึ้นมาในช่วงเวลากลางคืนหากผีตีน เดียวมาหาเราได้แค่เพียงมันสัมผัสเรานิดเดียวเท่านั้นมันก็จะสามารถสูบเอาวิญญาณของคนนั้นไปได้เลย  เอาเข้าจริงๆเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นแค่เพียงเรื่องเล่าในตำนานเท่านั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใดชาวบ้านน่าจะมีการเล่าเรื่องนี้กันเพราะว่า การเตือนให้คนเดินทางเข้าไปในป่านั้นให้เฝ้าระวังกล่องไฟอย่าให้ดับ

เนื่องจากในป่านั้นมีสัตว์ร้ายต่างๆมากมายซึ่งจะหากองไฟดับเมื่อไหร่จะตายก็อาจจะมาทำอันตรายคนที่อยู่ในป่าได้ไม่ว่าจะเป็นเสือ  หรือแม้แต่ยุงก็สามารถมาทำอันตรายคนที่เข้ามาพักค้างแรมในป่าได้หากไม่มีกองไฟคอยป้องกันนั่นเอง ซึ่งมีการสันนิฐานกันว่าผีตีนเดียวนั่นก็คือการที่ชาวบ้านเป็นไข้มาลาเรียหรือไข้ป่านั้นเองเพราะชาวบ้านไม่รู้จักไข้มาเลเลียหรือไข้ป่า

จึงได้มีการกล่าวอ้างถึงทีเดียวขึ้นมาว่าหากมันมาสัมผัสโดนตัวแล้วจะทำให้มันสูบวิญญาณเอาออกไปซึ่งนั่นก็คืออาการของคนที่เป็นไข้ป่าหรือไข้มาเลเรียนั่นเองและเมื่อเป็นไข้มาเลเรียหรือไข้ป่าแล้วคนส่วนใหญ่ก็มักจะเสียชีวิตนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ก็ได้ทรงให้มีการสร้างทางรถไฟขึ้นทำให้ชาวบ้านไม่ได้เดินเลาะป่ากันอีกต่อไป 

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน เกม

ตำนานโสกผีดิบ จังหวัดขอนแก่น

          วันนี้เราจะมาพูดถึงตำนานที่มีการเล่ากันกันมาจากปากต่อปาก จากรุ่นต่อรุ่น ถึงสถานทีท่องเที่ยวที่หนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดขอนแก่นได้เป็นอย่างดี ผู้คนไทยคนไทยและคนฝรั่งอยากที่จะมาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันสักครั้ง โดยที่ ณ  ตำบล โสกนกเต็น  อำเภอพล  จังหวัดขอนแก่น

ที่นั่นมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรณีวิทยา สถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดมาเองโดยธรรมชาติซึ่งเกิดมาจากการที่ถูกน้ำกัดเซาะเป็นทาง มาตั้งแต่สมัยโบราณเชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 65 ล้านปีก่อน ลักษณะของพื้นที่ที่ถูกน้ำกัดเซาะนั้นปกติแล้วชาวบ้านมักจะเรียกสถานที่แบบนี้ว่าโศกกันเท่านั้น

แต่สำหรับที่บริเวณนี้ชาวบ้านกับมีการตั้งชื่อแตกต่างออกไปนั่นก็คือชาวบ้านเรียกที่นี่ว่าโสกผีดิบ สาเหตุที่ทำให้ชาวบ้านต้องตั้งชื่อบริเวณนี้ว่าโสเภณีผิดนั้นก็เพราะว่า เมื่อประมาณปี  พ.ศ. 2480 ที่นี่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นเมื่อมีโรคห่าระบาดทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณนี้

พากันเจ็บป่วยล้มตายเป็นจำนวนไม่น้อย จากมีจำนวนผู้ที่ติดเชื้อห่านั้นเป็นจำนวนมากชาวบ้านไม่สามารถที่จะจัดพิธีศพคนในหมู่บ้านได้ทันดังนั้นพวกเขาจึงได้ขนศพเหล่านั้นมาไว้ที่บริเวณโสกนี้ ซึ่งสาเหตุนี้เองที่มีการนำศพคนตายมาไว้ที่โสกจึงทำให้ชาวบ้านเรียกจากโสกธรรมดามากลายเป็นโสกผีดิบนั่นเอง

ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดขอนแก่นอีกที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวมักจะมาชมความงดงามของหินเด่นที่สวยงามแปลกตาโดยที่นี่มักจะมีทั้งนักท่องเที่ยวและชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวไม่ขาดสายสำหรับที่นี่จะเป็นกำแพงตะกอนหินทรายซึ่งพอถูกน้ำกัดเซาะแล้วจะกลายเป็นรูปร่างต่างๆที่มีความสวยงาม

ดังนั้นนักธรณีวิทยาจึงได้มีการดูแลที่นี่ไว้เพื่อให้เอาไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาหาความรู้ สำหรับสถานที่แห่งนี้จะมีหินดินทรายหลายอย่างปะปนกันไปไม่ว่าจะเป็นหินตะกอนหรือหินทรายแป้งหินโคนสีแดงปนสีน้ำตาลหรือแม้แต่หินทรายเนื้อละเอียดเห็นเหล่านี้

จะมีการวางตัวทับซ้อนกันเรียงกันทำให้หลายคนมองว่าคล้ายๆกับแพะเมืองผีที่มีชื่อเสียงโด่งดังของจังหวัดแพร่นั้นเองที่นี่ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดขอนแก่นเลยก็ว่าได้หากใครเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดขอนแก่นก็จะต้องมาเช็คอินที่นี่ที่นี่เป็นตำนานที่มีอายุเล่าขานกันมาหลายร้อยปีแล้ว

      อย่างไรก็ดี ตำนานโสกผีดิบนี้ก็ไม่เคยมีใครเล่าเกี่ยวกับเรื่องของการเจอผีของชาวบ้านที่เสียชีวิตจากโรคห่ากันเลย

 

สนับสนุนโดย  sagame ทดลอง

ตำนานวิญญาณเฮี้ยน เรือล่มหน้าวัดสนามไชย

          คิดว่าหลายคนคงเคยจำกันดีว่าเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2559   เคยมีเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดใจเกิดขึ้นซึ่งเป็นข่าวโด่งดังไปหลายวัน เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 เดือนกันยายน ในปีดังกล่าวนั้น ได้มีเหตุการณ์เรือของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวเกิดเรือล่มกลางน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา 

ซึ่งบริเวณที่เรือล่มนั้นตรงกับบริเวณท่าน้ำของวัดสนามไชย จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั่นเอง  และจากเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดเกิดขึ้นในครั้งนั้น จากที่มีเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวมาพลิกคว่ำที่บริเวณท่าน้ำหน้าวัด ทำให้ พบว่ามีผู้ที่เสียชีวิตไปทั้งสิ้นมากกว่า 28 คน

และเมื่อเหตุการณ์เรือคว่ำได้ไม่นานชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ต่างก็มีการพูดกันถึงเรื่องที่พวกเขานั้นมีการถ่ายรูปภาพติดวิญญาณกันมากมาย  นอกจากนี้นักข่าวที่มาทำข่าวต่างก็เคยถ่ายภาพถ่ายติดวิญญาณกันด้วย 

ซึ่งส่วนใหญ่จะมีรูปภาพมาเป็นหลักฐานอ้างอิงด้วยและคนงานที่เฝ้าซากเรือที่มาพลิกคว่ำที่หน้าวัดสนามไชยต่างก็บอกว่าจะมีกลิ่นของซากศพลอยออกมาจากซากเรือที่คว่ำซึ่งกลิ่นดังกล่าวนั้น มันมาจากบริเวณใต้ท้องเรือซึ่งได้มีการเข้าไปหาแล้วก็ไม่พบกับศพคนตายแต่อย่างใด  จึงทำให้เรื่องราวความเฮี้ยนของผีที่ท่าน้ำวัดสนามไชย เป็นข่าวโด่งดังใหญ่โต

จนเกิดเป็นตำนานที่เล่าขานต่อต่อกันมา  และถึงแม้จะมีคนเล่าเกี่ยวกับการเห็นผีที่ท่าน้ำวัดสนามไชยกันอยู่บ่อยครั้ง แต่เอาเข้าจริงจริงก็ไม่เคยมีใครออกมายืนยันได้เลยว่าเห็นกับตัวเองจริงจริง มีแต่การถ่ายภาพติดวิญญาณในช่วงที่มีเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวล่มในช่วงแรกแรกเท่านั้นเอง ซึ่งหากเราสันนิฐานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากในความเป็นจริงก็คือ

การที่เราได้กลิ่นไม้เห็นเหมือนกับศพนั้น  มันจะมีไม้บางชนิดที่เรานำมาแช่น้ำไว้เป็นเวลานานแล้วจะมีกลิ่นคล้ายกับซากศพ ซึ่งก็น่าจะสันนิฐานได้ว่ากลิ่นที่โชยออกมานั้น เป็นกลิ่นของไม้ชนิดดังกล่าวนั่นเอง และในส่วนของรูปถ่ายที่ติดวิญญาณที่กำลังแอบมองนั้น

ก็สามารถสันนิฐานได้ว่าน่าจะเป็นชาวบ้านที่อยู่แถวที่เกิดเหตุพากันมาแอบมองตอนที่มีนักข่าวมาทำข่าวนั้นเอง ซึ่งไม่ได้เกิดจากภาพวิญญาณของผีแต่อย่างใดเลย ดังนั้นเราอาจกล่าวได้ว่า บางครั้งตำนานก็คือเรื่องเล่าซึ่งอาจจะไม่เคยมีอยู่จริงและไม่เคยเกิดขึ้นจริงเลยก็ได้ แต่ตำนานที่เล่าต่อต่อกันมานี้เอง ก็ทำให้เรารู้ถึงประวัติที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตได้ว่าที่บริเวณแห่งนี้เคยมีเหตุการณ์อะไรขึ้นมาบ้าง นั่นเอง 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนัน csgo

ตำนานผีในมหาวิทยาลัยรังสิตตรงที่จอดรถตึก 10

            กลับมหาวิทยาลัยรังสิตบอกเลยว่าตำนานผีมีเยอะมากไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำหญิงที่ตึก 5 หรือแม้แต่ผีที่ตึก 3 ห้อง 508 รวมถึงยังมีผีที่ลิฟท์ตึกสามอีกต่างหากสำหรับ ตำนานผีในมหาวิทยาลัยรังสิตนั้นมีเรื่องเล่าขานต่อๆกันมา

ซึ่งเรื่องที่จะเล่าเรื่องต่อไปนี้เกิดขึ้นที่อาคารจอดรถของตึก 10 โดยผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นมีหลายคนต่างก็เล่าลือเป็นเสียงเดียวกันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับนักศึกษามหาวิทยาลัยเมื่อพวกเขากำลังทำโปรเจคเพื่อส่งอาจารย์เพื่อที่จะได้จบการศึกษาด้วย Project

ที่ว่านี้เป็นการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นเป็นงานชิ้นนี้เป็นงานกลุ่มที่นักศึกษาคณะภาพยนตร์ต่างก็ร่วมแรงร่วมใจกันในการถ่ายทำโดยในวันที่เกิดเหตุนั้นเป็นการถ่ายทำในช่วงกลางคืนเนื่องจากว่าละครสั้นที่ทางนักศึกษาช่วยกันทำนั้นเป็นละครเกี่ยวกับผีโดยมีฉากถ่ายทำไว้บนตึกที่ลานจอดรถชั้น 1 ซึ่งขนาดที่กำลังมีการถ่ายทำกันอยู่นั่นเอง

นักศึกษาที่รับหน้าที่เป็นผู้กำกับการถ่ายภาพยนตร์ก็ได้มีการตะโกนออกไปเนื่องจากว่าปรากฏมีร่างของนักศึกษาคนหนึ่งกำลังยืนขวางบริเวณหน้าเฟรมส่งที่นักแสดงกำลังแสดงกันอยู่ทำให้นักศึกษาคนที่เป็นผู้กำกับไม่พอใจจึงโดนต่อว่าให้หลบไปแต่ไม่ว่าจะตะโกนเท่าไหร่นักศึกษาคนที่ยืนขวางเฟรมอยู่ก็ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนและไม่สนใจอย่างใด

ซึ่งหลายคนก็พากันตะโกนให้นักศึกษาคนนั้นจบไปแต่เขาก็ยังยืนอยู่ที่เดิมจนในที่สุดคนที่เป็นผู้กำกับอดทนทนไม่ไหวจึงได้เดินไปหานักศึกษาที่ยืนขวางเฟรมคนดังกล่าวและเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อผู้กำกับเดินไปถึงนักศึกษาคนที่ยืนขวางอยู่นั้นก็หันมายิ้มให้กับผู้กำกับหลังจากที่เขายิ้มเสร็จเรียบร้อยแล้วเขากระโดดจากตึกของลานจอดรถทันทีทุกคนต่างก็พากันตกใจเป็นอย่างมากรีบวิ่งลงไปดูที่บริเวณด้านล่างพร้อมครั้งเรียกกู้ภัยให้มาช่วยดู

แต่ปรากฏว่าเมื่อลงมาถึงชั้นล่างกับไม่พบใครเลยสร้างความประหลาดใจและความหวาดกลัวให้กับนักศึกษาทุกคนที่กำลังถ่ายทำภาพยนตร์กันในวันนั้นเป็นอย่างมากจนเรื่องนี้ได้มีการพูดกันปากต่อปากถึงความน่ากลัวของอาคารจอดรถชั้นดังกล่าวจนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีใครกล้าที่จะไปจอดรถคันนั้นเลย

ตำนานความน่ากลัวของผียังคงมีอยู่ให้นักศึกษารุ่นต่อรุ่นเราสู้ต่อๆกันมาซึ่งถึงแม้จะมีความน่ากลัวมากแค่ไหนแต่นักศึกษามหาวิทยาลัย ก็ยังคงมาใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยกันตามปกติตอนนี้ปัจจุบันนี้หลายคนไม่เห็นวิญญาณที่เคยเกิดขึ้นตามที่เคยเล่าขานกันแล้วเจอว่าเรื่องนี้คงนานมาแล้วจนวิญญาณเหล่านั้นพากันไปเกิดหมดแล้ว

 

ขอบคุณ  sagame คาสิโนออนไลน์  ที่ให้การสนับสนุน

การขุดค้นทองคำญี่ปุ่นในปี2538 ที่ถ้ำจันเดย์

สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงทองคำของทหารญี่ปุ่นที่ได้นำเอาเข้ามาฝังดินเอาไว้อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี และวันนี้เราก็จะมาพูดเรื่องของทองคำที่มันได้มีการคาดเดาเพราะในตั้งแต่ในอดีตจนมาถึงสงครามโลกและจนมันได้มาถึงในช่วงที่เขาได้มีการพูดถึงกันมันก็ยังไม่เคยมีใครที่ได้ค้นพบทองคำแท่งเหล่านั้นเลย

แต่อยู่ดีๆวันหนึ่งในปี2535 ได้มีข่าวที่ทำให้คนชาวไทยต้องตกตะลึ่งกันทั้งประเทศเพราะว่าข่าวนี้มันได้เป็นข่าวที่ได้มีชาวบ้านขุดค้นพบทองคำแท่นหนักกว่า20กิโลกรัมได้ที่ อําเภอทองผาภูมิ กาญจนบุรี ซึ่งในจุดนี้เลยทำให้คนเริ่มคิดแล้วว่าเรื่องของตำนานสมบัติของคนญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่2

มันอาจจะไม่ใช่เรื่องเล่าปรัมปราแต่มันอาจจะเป็นเรื่องจริงและมันอาจจะมีขุมทองมากกว่าที่ชาวบ้านเจอเพียงแท่งเดียวก็เป็นได้และข้อมูลมันยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้นตามสักนักข่าวที่ได้มีการจดบันทึกข้อมูลเอาไว้เขาก็ยังได้บอกเอาไว้ว่า เมื่อวันที่18ธันวาคม ในปี 2538

ได้มีข่าวการขุดค้นพบทางรถไฟยาวประมาณ15เมตรที่มันได้อยู่ลึกลงไปจากผิวดินประมาณ6เมตรในพื้นที่ของบริเวณที่ได้มีการขุดค้นพบทองของชาวบ้าน ซึ่งจากการขุดค้นพบในครั้งนี้เส้นทางรถไฟที่เขาได้มีการขุดมันก็ได้ชี้ไปทางเข้าของถ้ำเขาจันเดย์เขาเลยคาดการณ์กันว่า ถ้ำจันเดย์ในจังหวัดกาญจนบุรีมันอาจจะเป็นถ้ำที่มีขุมทองอยู่ก็เป็นได้

ซึ่งตรงนี้หากใครได้เข้าไปหาข้อมูลกันดีๆก็จะรู้ว่านี่มันได้เป็นว่าระแห่งชาติที่ทำให้คนใหญ่คนโตข้าราชการรวมไปถึงรัฐมนตรีในยุคนั้นต้องเข้ามาลงในพื้นที่และสั่งการทำการขุดเจาะกันอย่างจริงจังและทำให้คนไทยได้หันกันมาสนใจกับข่าวนี้กันมากขึ้นสุดท้ายผลที่ตอบกลับมามันได้ผิดหวังกันอย่างที่คิดเอาไว้เพราะหลังจากที่ได้มีการขุดเจาะกันไปเรื่อยๆ

ปรากฎว่าขุดไปแล้วลึกแล้วมันก็ไม่พบเจออะไรเจอแต่เพียงหน้าดินหินและทรายเพียงเท่านั้นเองและหลังจากการผิดหวังในครั้งนี้มันก็ได้ถูกตีแผ่ออกไปเรื่อยๆเรื่องของขุมทองในสมัยสงครามโลกครั้งที่2ของคนชาวญี่ปุ่นก็ได้ถูกลืมและมันก็ได้จางหายไปเรื่อยๆ

จากความสนใจของประชาชนและจนมาถึงในปี2544อยู่ดีๆก็ได้มีข้าราชการชั้นสูงคนหนึ่งที่เขาได้อยู่ในทีมขุดเจาะในปี2538เขาก็ยังได้ออกมาอ้างต่อสื่ออีกว่าเขานั้นได้เจอหลักฐานมาอย่างที่ยืนยันการมีอยู่ของสมบัติชาวญี่ปุ่นอย่างชัดเจนและได้ระบุว่าขุมทองเหล่านั้นมันไม่ได้อยู่ในถ้ำจันเดย์แต่มันได้อยู่ภายในถ้ำที่มันได้อยู่ในพื้นที่บริเวณที่ไกลๆกันนั่นก็คือถ้ำลิเจียนี่เอง

 

ได้รับการสนับสนุนมาจาก  บา คา ร่า sagame

เรื่องเล่าสยองขวัญเพื่อนกลับมาที่ห้องหลังจากตายไปแล้ว 

ฉันมีเพื่อนอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งเราทุกคนเป็นผู้ชายมีเพียงแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้หญิงแต่ก็เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันตอนนั้นเพื่อนของเราคนหนึ่งรอเขาใช้ชื่อว่ากุ้งก็แล้วกันตอนนั้นกุ้งออกไปซื้อของให้กับห้องของเราซื้อของให้เพื่อนๆเช่นพวกขนมของกินมันจากนั้นกุ้งก็ออกไปนานมาก

ซึ่งเขาก็ไม่กลับมาสักทีผ่านไป 2 ชั่วโมงก็ยังไม่กลับมาทุกคนเลยเลือกที่จะขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามหากุ้งกันออกไปได้สักพักก็พบศพของกุ้งนอนตายอยู่ตรงทางโค้งซึ่งหลังจากนั้นก็ไปแจ้งตำรวจและเราก็ได้ การเผาศพและทำพิธีกรรมกับทางครอบครัวของกุ้งเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งหลังจากนั้น 1 อาทิตย์ผ่านไปพวกเราก็ยังไม่หายกลัวเรื่องราวเพราะว่าภาพนั้นเป็นภาพที่ติดตามพวกเรามากพวกเราก็นอนไม่หลับวันนี้พวกเราเลยคิดจะมานั่งล้อมวงคุยกัน ซึ่งตอนนั้นทุกคนก็คุยกันคุยกันไปคุยกันมาอยู่ๆก็จะมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นเป็นจังหวะจังหวะซึ่งทุกคนก็พากันหยุดคุยกันทีหลังจากนั้นก็รอสักพักนึงแต่ก็ยังมีเสียงเคาะอยู่แต่ไม่มีใครเลยพี่จะลุกขึ้นไปเปิดประตูเอา

แต่นั่งเงียบกันอยู่อย่างนั้นจะอยู่เสียงเคาะก็หายไปหลังจากนั้นก็มีเสียงเคาะขึ้นมาใหม่อีกครั้งซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของรุ่นพี่ที่ได้เสียชีวิตไปซึ่งเขาร้องว่ามาแล้วมาแล้วเปิดประตูสิซื้อของมาแล้วทุกคนถึงกับแทบช็อคจนแทบจะเป็นลมเนื่องจากเสียงนั้นคือเสียงของรุ่นพี่ทีป ชีวิตไปเมื่อ 1 อาทิตย์ที่แล้วนี่เอง คนในหอนั้นโดนกันหมดเลยเพิ่งมาถึงตาของหอเราเราก็เป็นเหมือนกัน

ได้ยินเสียงเรียกแบบนั้นเช่นเดียวกันเพื่อนเราคนนึงที่เป็นคนที่สนิทที่สุดกับคนที่เสียชีวิตก็บอกว่าจะตายแล้วนะไปเถอะเดี๋ยวฉันทำบุญไปให้ไปสักทีซึ่งหลังจากนั้นก็มีเสียงหมาหอนเสียงดังพร้อมกับเสียงกรีดร้องอย่างทรมานและเสียงก็หายไปซึ่งนั่นทำให้ทุกคนสนใจจะนอนกันไหมล่ะทุกคนในหอพากันตาตื่นไม่หลับเช้าวันต่อมาทุกคนต่างก็ตาเป็นแพนด้าเดินเข้ามาจับกลุ่มคุยกันทั้งหอพูดถึงเรื่องที่เกิด

ซึ่งทุกคนก็รู้ว่ารุ่นพี่นั้นมาคุยกับพวกเขาจริงๆนั่นทำให้มีนักเรียนคนหนึ่งที่เป็นคนที่กลัวผีมากๆถึงกับเข้าโรงพยาบาลจิตเวชเลย หลังจากนั้นทุกๆคืนก็จะมีเสียงคนเคาะประตูในห้องของคนที่เสียชีวิตขยับไปมาเองนะตอนกลางคืนก็มีเสียงอาบน้ำจนสุดท้ายเพื่อนของเราก็ทำการทำบุญครั้งใหญ่ทั้งมหาลัยพากันทำบุญครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาให้กับคนที่เสียชีวิตเพื่อที่เขาจะไม่ได้มาหลอกหลอนอีกและสุดท้ายเรื่องราวก็ค่อยๆเงียบไป

 

สนับสนุนโดย  bk8