การทดลองที่ทำให้ผู้ป่วยทางจิตเวชต้องเสียชีวิตลงถึง49ราย

เพิ่มความฉลาด

เมื่อปี2005 นักวิทยาศาสตร์แห่งสถานบันวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ซอล์คในแคลิฟอร์เนีย ได้ทำการทดลองฉีดเต็มเซลล์ตัวอ่อนของมนุษย์เข้าไปในสมองของหนู ซึ่งถือว่ามันได้เป็นครั้งแรกที่ได้มีการนำเอาเซลล์ประสาทของมนุษย์ใส่เข้าในกระโหลกของสิ่งมีชีวิตอื่นแม้ว่าได้ทำการฉีดเซลล์ของมนุษย์กว่า100,000เซลล์เข้าไปในหนูทดลอง

แต่ละตัวแล้วแต่ก็ยังคงให้เซลล์สมอง99%นั้นยังเป็นหนูอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคำถามหรือข้อครหาทางศีลธรรมว่า “สร้างสิ่งมีชีวิตที่เหมือนมนุษย์เกินไป”สเต็มเซลล์ที่ได้ถูกฉีดเข้าไปถูกย้อมให้เป็นสีเขียวเพื่อที่จะได้สามารถติดตามดูผล ซึ่งได้พบว่าเซลล์เหล่านี้ได้พัฒนากลายมาเป็นเซลล์สำคัญที่พบได้ตามปกติในสมองของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

นอกจากนี้ยังมีการเฝ้าสังเกตจุดไซแนปส์หรือจุดประสารประสาทที่อยู่ระหว่างเซลล์ลูกผสมแต่ทว่ากยังไม่ทราบถึงผลที่แน่นชัดว่าสัญญาณไฟฟ้าที่ส่งมานั้นเป็นสัญญาณของหนูหรือของมนุษย์ต่อมาทางศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยแห่งโรเซสเตอร์ในนิวยอร์กได้ทำการทดลองนี้อีกครั้งในปี2014 ด้วยการฉีดสเต็มเซลล์ของมนุษย์เข้าไปในหนูทดลองถึง300,000เซลล์ โดยในครั้งนี้เซลล์พัฒนาเพิ่มขึ้นเป็น12ล้านเซลล์  ซึ่งทำให้เห็นความฉลาดของหนูเพิ่มขึ้นได้อย่างชัดเจน

ความผิดปกติการกระทำผิดและความวิกลจริต

ดร.เฮนรี คอตตอน อดีตหัวหน้าแพทย์ของโรงพยาบาลจิตเวชประจำรัฐนิวเจอร์ซี่ย์ ซึ่งก็คือโรงพยาบาลจิตเวชเทรนตัน ดดยตั้งแต่ในปี1907 – 1930 ซึ่งได้เป็นช่วงที่ คอตตอน ได้ทำหน้าที่อยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้เขาได้ทำการทดลองหลายครั้งกับผู้ป่วยจิตเวชเพื่อที่จะพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของเขาที่เชื่อว่าความผิดปกติทางจิตนั้นเกิดจากที่อวัยวะภายในร่างกายทำงานผิดปกติ

โดนคอตตอนและทีมของเขาได้ทำการทดลองที่เรียกว่า “การผ่าตัดแบคทีเรียวิทยา”ซึ่งได้เป็นการผ่าตัดเอาอวัยวะออกเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื่อโรค โดยเริ่มจากการถอนฟันของผู้ป่วยซึ่งได้มีการบันทึกพร้อมภาพประกอบไว้ในคู่มือของเขาที่ชื่อว่า “ความผิดปกติการกระทำผิดและวิกลจริต”แพท์เขาจะค่อนๆทำการตัดอวัยวะของร่างกาย

ในส่วนที่สำคัญออกทีละส่วนและในขณะเดียวกันพวกเขาก็จะค่อยสังเกตอาการทางจิตของผู้ป่วยไปด้วย โดยในปี1922คอตตอนได้เผยแพร่ผลงานของเขาและอ้างว่าวิธีการรักษาผู้ป่วยจิตเวชของเขานั้นได้ประสบผลสำเร็จถึง85%แต่ในอีกด้านหนึ่งเขาก็ยอมรับว่าจากการทดลองนั้นเขาต้องสูญเสียผู้ป่วยไป30-45%เลยทีเดียว และหลังจากที่เขาได้เสียชีวิตไปแล้วได้มีการสืบสวนเพิ่มเติมทำให้ได้พบว่ามีผู้ป่วยจำนวน49รายต้องเสียชีวิตจากการทดลองอันโหดร้ายเหล่านี้

 

สนับสนุนโดย  rb88 line