การขยายอำนาจของ เจงกิสข่าน 

การขยายอำนาจของ เจงกิสข่าน  อาณาจักรมองโกลนั้นถึงแม้ว่าจะเกิดจาก เจงกิสข่าน แต่การสานต่อนั้นอยู่กับลูกชายของเจงกิสข่านอีก4คนด้วยกันสำหรับลูกชายเจงกิสข่าน4คน

นั้นล้วนแต่เป็นนักรบที่มีความหานกล้าด้วยกันทั้งหมดคนแรกแม้ว่าจะเป็นที่โปรดปรานเจงกิสข่านแต่มีความเชื่อกันว่าคนนี้จริงๆแล้วเป็นลูกของศัตรูเพราะว่าภรรยาของเจงกิสข่านตั้งครรภ์ในช่วงเวลาที่ถูกจับเป็นเชลยระหว่างที่มีการรบกันส่วนลูกชายคนที่สองสามสี่หลายคนหาจจะคุ้นเคยกับคนที่สี่เพราะว่าถูกนำไปเป็นส่วนหนึ่งของนิยายมังกรหยกในฐานะที่เป็นเพื่อร่วมสาบานกันกับกก๊วยเจ๋งที่เป็นตัวเอกของเรื่องด้วย

ทั้งสี่คนนี้มีภารกิจที่จะต้องช่วยเหลือพระบิดาก็คือ เจงกิสข่าน ในการขยายอำนาจลงใต้กันด้วยเจงกิสข่านนั้นหลังจากรบชนะก็ได้มีการเปิดฉากในการขยายอาณาจักรไปทางทิศตะวันตกแต่แนวรบทางด้านใต้พวกเขาสามารถที่จะบุกยึดเมืองสำคัญได้หนึ่งเมืองในปี1232 นั่นก็คือเมืองไคฟง

ซึ่งเมืองไคฟงในเวลานั้นมีสถานะภาพเป็นอะไรเมืองไคฟงในเวลานั้นมีสถานะภาพเป็นราชถานีใหม่หรือว่าเผ่าหนี่เจินโดยเจงกิสข่านนั้นสามารถถที่จะเอาชนะได้ การที่สามารถยึดครองไคฟงได้ในเวลานั้นทำให้เจงกิสข่านได้บริเวณหนึ่งคนเป็นนักปราชญ์

โดยนักปราชญ์คนนี้เป็นบุคคลที่วางระบอบการปกครองของมองโกลเพราะเชื่อว่าการรบที่เก่งกล้าย่อมจะควบคู่ไปกับความสามารถในการปกครองที่เป็นธรรมและความสามารถในการปกครองที่เป็นระบบเยลู่ฉู่ไฉได้มีการเสนอว่าให้มีการสร้างสภาขึ้นมาหนึ่งสภา

ในการที่จะทำงานร่วมกันกับข่านองค์ใหม่หลังจากที่เจงกิสข่านเสียไปแล้วก่อนเจงกิสข่านจะตายหนึ่งปีลูกชายคนโตของเขาที่มีชื่อว่าซูฉือได้ตายในหนึ่งสมรภูมิในช่วงการบุกไปยังทิศตะวันตกแต่ ณ. เวลานนั้นเจงกิสข่านเชื่อว่าบุตรชายคนที่สองที่มีชื่อว่าฉากเหอไท่มีอุปนิสัยที่เต็มไปด้วยความแค้นโมโหมีจิตใจเฮียมโหด

จึงไม่ได้มีการมอบบัลลังก์ให้กับลูกชายคนที่สองคนนี้แต่กลับมอบบัลลังก์ให้กับบุตรชายองค์ที่สามในเวลาต่อและในช่วงเวลาที่สองซึ่งเวลานั้นเจงกิสข่านเหลือบุตรชายอีกสามคนเป็นช่วงเวลาที่บุตรชายทั้งสามคนนั้นมีการแบ่งแย้งชิงดีมีการแก่งแย่งอำนาจกันภายในเพื่อย้ำให้มั่นใจว่าตัวเองสามารถที่จะเป็นข่านคนสำคัญของจักรวรรดิมองโกเลียได้ต่อไปแต่อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาดังกล่าวก็ได้มีการรบในสองแนวรบสำคัญด้วยกัน

 

สนับสนุนโดย.    หวยดี