เรื่องราวต้นกำเนิด น้ำโซดา

       ต้นกำเนิด น้ำโซดา สำหรับ น้ำโซดานั้น  เป็นเครื่องดื่มที่ใช้ดื่มแทนน้ำเปล่าก็ได้ หรือจะใช้ผสมกับเหล้า ก็ได้เช่นเดียวกัน และในทุกวันนี้ น้ำโซดา ยังมีการนำมาผสมกับน้ำหวาน ทำให้เวลารับประทานแล้วน้ำที่ถูกนำมาผสมกับน้ำโซดานั้น รสชาติอร่อยยิ่งนัก   ปัจจุบัน น้ำโซดา ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ  

         ซึ่งแน่นอนว่ากว่าจะมาเป็น น้ำโซดา ในทุกวันนี้ก็ยังมีตำนานถึงที่มาที่ไปว่าจุดเริ่มต้นเช่นเดียวกันว่ามาจากไหนนั่นเองซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงประวัติความเป็นมาของน้ำโซดาก่อนที่จะมีการนำมาวางขายจนได้รับความนิยมเผยแพร่ไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ 

      สำหรับประวัติของการคิดค้นน้ำโซดานั้น นั้นเรียกได้ว่าในสมัยก่อนนั้นได้มีนักธรณีวิทยา  คนหนึ่งเป็นคนค้นพบนั่นเองซึ่งตอนที่เขาค้นพบนั้นสาเหตุก็เพราะว่าเวลาที่เขาต้องออกสำรวจพวกโบราณสถานต่างๆนั้นบางสถานที่อากาศจะร้อนอบอ้าวทำให้เขานั้นต้องหาน้ำดื่มที่ทำให้ตัวเองนั้นรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเป๋าและรู้สึกกินเข้าไปแล้วเย็นสบายซึ่งแน่นอนว่าน้ำเปล่าไม่สามารถช่วยให้เขารู้สึกเย็นสบายได้นั่น

       ต้นกำเนิด น้ำโซดา  ดังนั้นเขาจึงได้ไปค้นพบแร่ชนิดหนึ่งซึ่งแร่ชนิดนี้เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติโดยแร่ชนิดนี้มีส่วนผสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ด้วยและเมื่อเขาได้ทดลองกินเขาก็รู้สึกถึงความเอร็ดอร่อยของนำแร่ชนิดนี้เป็นอย่างมากเขาจึงได้มีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับน้ำแร่ชนิดนี้ว่ามีส่วนผสมอะไรและเมื่อรู้ว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นจะสามารถช่วยทำให้เขาเกิดความรู้สึกสดชื่นถ้าได้เอาไปผสมกับน้ำแร่ได้

          ดังนั้นในปีต่อมาเขาจึงได้เริ่มผลิตน้ำขึ้นมาด้วยน้ำดังกล่าวเขาจะเอาไปผสมกับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์นั่นเองโดยปีแรกของการผลิตนั้นเกิดขึ้นเมื่อปีคริสตศักราช 1767  และนั่นเองคือต้นกำเนิดของเครื่องดื่มที่มีรสซ่าหลังจากนั้นได้มีนักบวชคนหนึ่งซึ่งได้รู้จักกับนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษคนหนึ่งทั้งคู่นั้นได้พยายามคิดค้นหาน้ำดื่มที่มีรสชาติอร่อย

            และในที่สุดคนทั้งคู่นั้นก็พบว่าหากมีการหมักถังเบียร์ลงไปในถังเบียร์นั้นจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และส่งผลทำให้เบียร์นั้นมีรสชาติอร่อยและมีต้าซึ่งหลังจากนั้นทั้งสองคนก็ได้ทำการคิดค้นและทดลองอยู่เรื่อยมาจนทำให้ในที่สุดนั้นทั้งสองคนก็เป็นผู้ค้นพบน้ำขึ้นเป็นรายแรกของโลกนั่นเองโดยนักบวชคนที่ค้นพบนางสุภารายแรกของโลกนั้นชื่อว่าโจเซฟ   เพรสลีย์  

           หลังจากที่สามารถคิดค้นน้ำโซดาได้แล้วก็ได้มีการออกมาวางขายและทำให้น้ำโซดานั้นกลายเป็นที่ยอมรับทั่วโลก

 

สนับสนุนโดย.  aecasino

ประวัติศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู 

          สำหรับศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู ในปัจจุบันนี้มีคนที่นับถือศาสนานี้น้อยมาก  หากเมื่อต้องเปรียบเทียบกับศาสนาอื่นอื่นที่มีอยู่ในโลกตอนนี้   แต่หากได้มีการศึกษาเกี่ยวกับศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู นี้อย่างแท้จริงก็จะได้รู้ว่า ที่จริงแล้ว ศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู นี้นับเป็นศานาที่เกิดขึ้นมาในโลกใบนานก่อนศาสานาอื่นอื่น ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ 

          แต่ถึงแม้จะเป็นศานาที่เกิดมานานกว่า เก่าแก่กว่าศาสนาอื่น แต่เมื่อเริ่มมีศาสนาพุทธเริ่มเข้ามา ศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู ก็มีคนให้ความนับถือลดน้อยถอยลง จนในที่สุดก็เสื่อมความนิยมลงนั่นเอง โดยมีศาสนาพุทธเข้ามาแทนที่   แต่หลังจากนั้นศาสนาพราหมณ์ –ฮินดูก็มีการปฏิรูปด้านศาสนาของตนเองขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13 นั่นเอง

         สำหรับการปฏิรูปศาสนาของ ศาสนาพราหมณ์ –ฮินดูนั้น ได้เริ่มมีการเอาหลักธรรมบางส่วนของศาสนาพุทธเขามา ทำให้หลายคนเริ่มกลับมาสนใจศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู กันมากขึ้น   สำหรับศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู นิยมนับถือกันมาในกลุ่มคนของประเทศอินเดีย เนื่องจากว่าอารยธรรมของศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู มีการเผยแพร่เข้ามาที่ประเทศอินเดียผ่านทางแม่น้ำสินธุ  ซึ่งการนับถือของ ศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู นั้นนิยมนับถือเทวดา 

       ดังนั้นจะเห็นได้ว่าอินเดียทางตอนเหนือนั้น จึงมีการนับถือพระศิวะ  เพราะพระศิวะในศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู  นั้นก็คือเทวดาเป็นเทพที่สิงสถิตอยู่ที่ภูเขาหิมาลัยนั่นเอง   และในขณะเดียวกันองค์เทพที่ปกปักษ์รักษาประเทศอินเดียทางด้านตอนใต้นั่นก็คือ พระวิษณุ  เนื่องจากชาวบ้านเชื่อกันว่า องค์พระวิษณุนั้นจะบันดาลฝน และพายุ ดังนั้นกลุ่มชาวประมง จึงค่อนข้างเคารพนับถือพระวิษณุกันมากเลยทีเดียว 

      อย่างไรก็ตามคนอินเดียที่อยู่ทางตอนใต้ไม่ไดนับถือเพียงแค่องค์พระวิษณุ องค์เดียวเพียงเท่านั้น  เพราะยังมีเทพองค์อื่นอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระนิรุทธ  ซึ่งจะเป็นชาวป่าที่ให้ความเคารพนับถือ และยังมีพระพิฆเนตร ที่จะมีคนนับถือกันมากอีกด้วย

  อย่างไรก็ตามมีช่วงหนึ่งที่คนในประเทศอินเดียเกิดแตกแยกกัน และมีการขับไล่กลุ่มราชวงศ์ รวมถึงศาสนาอื่นอื่นในประเทศอินเดียก็ถูกกำจัด ดังนั้นผู้นำท้องถิ่นของแต่ละที่จึงได้รวมตัวกัน นำองค์เทพของแต่ละถิ่นที่ตนนับถือมารวมกัน ให้เป็นเพียงหนึ่งเดียว แล้วมีการเรียกตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ ว่าศาสนฮินดู  

       ดังจะเห็นได้ว่าปัจจุบันนั้น เราจะมีการรู้จัก ศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู  ว่าเป็นศานาฮินดูนั่นเอง  ในสมัยก่อน ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะมาเผยแพร่พระพุทธศานาพระองค์ก็เคยนับถือศาสนาพราหมณ์ มาก่อน ดังนั้นจึงเรียกได้ว่า ศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู กับศาสนาพุทธจึงมีความเกี่ยวพันกันนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  aecasino