ภาพ untitled Vlll โดย William de Kooning

        สำหรับใครที่ชอบผลงานด้านศิลปะโดยเฉพาะศิลปะภาพวาดหรือการใช้สีแล้วเราก็เชื่อว่าเคยเห็นผลงานแนว Abstract กันมาบ้างแล้วซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากใครไม่มีหัวด้านศิลปะเลยจะมองผลงานด้านนี้ไม่ออกว่ามันมีความสวยงามมากแค่ไหน

เพราะเท่าที่เราเห็นกันอยู่ก็คือการเอาสีมาป้ายธรรมดาทั่วไปซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันแต่คุณรู้ไหมว่าผลงานด้าน Abstract  แบบนี้นั้น

ถ้าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมาทำแล้วเราก็ผลงานของพวกเขานั้นจะสร้างมูลค่าได้มากมายมหาศาลกันเลยทีเดียวซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดผลงานชิ้นหนึ่งของนักวาดภาพชื่อดังซึ่งเขาได้รังสรรค์ผลงานแนว Abstract ออกมาและผลงานของเขานั้นก็ทำให้เราถึงกับราคาของภาพดังกล่าวเป็นอย่างมาก 

           คุณอาจไม่ได้เป็นคนเดียวที่มองภาพนี้แล้วสงสัยว่าสิ่งนั้นคืออะไรกันนะภาพนี้ถือว่าเป็นภาพแอพสแทรคอย่างแท้จริงแล้วมันไม่มีโครงสร้างหรือองค์ประกอบใดๆที่แสดงให้เห็นถึงรูปร่างของวัตถุอะไรสักอย่างได้เลยดูเหมือนเป็นแค่สีหลายสีที่ฝากแป้งถมทับไปให้เต็มพื้นที่สี่เหลี่ยมนี้เท่านั้น

แต่ถึงกระนั้นภาพนี้ก็โด่งดังไม่ใช่น้อยขนาดนี้ออกมาหลายเวอร์ชั่นซะด้วยปวดภาพ William de Kooning  เป็นศิลปินชาวดัตช์ที่ได้รับสัญชาติอเมริกาในภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีกลุ่มศิลปินหลายท่านที่โด่งดังในศิลปะด้าน

          William de Kooning เป็นหนึ่งในศิลปินชั้นยอดเหล่านั้นเขาได้วาดภาพแนว Abstract ที่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างและได้รับความนิยมอย่างมากในเวลาถัดมาจากแนวทางการวาดภาพของเขาเราจะเห็นได้ว่าภาพสีน้ำมันบนผ้าใบของเขามีหลากหลายสีในภาพเดียว

แต่ละสีนั้นปากออกมาโดยมีทิศทางที่ไม่แน่นอนเหมือนกับคนว่าต้องการแสดงความไม่แน่นอนของการลงแปลงแต่ละครั้งเราจะเห็นได้ว่าสีแต่ละสีนั้นเปลี่ยนทิศทางอย่างเอาแต่ใจตัวเองและไม่แน่ไม่นอนเลยสั่งเส้นเหมือนกับลากไปยังมือลอยไร้จุดหมายและก็หยุดลงบางเส้นก็เข้มแข็งบางเส้นเลี้ยวลดก็เคี้ยวอย่างน่าประหลาดบางทีก็ทาทับอีกทีไปเลยอย่างไร้เหตุผล

      ผลงานชิ้นนี้  William de Kooning  ได้ใช้เทคนิคเหล่านี้ในการสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาบอกได้เลยว่าความรู้สึกไม่ได้มองภาพนี้ล้วนแล้วแต่ยุ่งเหยิงไปหมด 4 ที่ทับซ้อนกันขึ้นมา

โดยได้ความเข้ากันนั้นมองแล้วรู้สึกสับสนและไม่สงบใจแต่ภาพนี้ก็ทำให้เราได้รับรู้ถึงความไม่แน่นอนของสิ่งต่างๆโดยเฉพาะศิลปะเองที่มีรูปแบบไม่ตายตัวเปลี่ยนผ่านไปได้ตลอดเวลาและคุณอาจจะตกใจไม่ได้ทราบว่าภาพนี้มีราคาสูงราว 32 ล้านดอลลาร์หรือเทียบกับเงินไทยได้เกือบ 1,000 ล้านบาทเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย.  aesexy

ตำนานพญาพาน ตำนานการสร้างองค์พระปฐมเจดีย์ 

       ตำนานพญาพาน  เป็นตำนานเก่าแก่ที่มีการเล่าขานกันเอาไว้ซึ่งตำนานนี้เป็นตำนานที่เกิดขึ้นของจังหวัดนครปฐมโดยตำนานนี้มีการกล่าวถึงเจ้าเมืองหนึ่งซึ่งชื่อเมืองศรีวิชัยซึ่งมีการปกครองภายใต้การดูแลของพระยากงโดยพระองค์นั้นมีลูกด้วยกัน 2 คน

และหนึ่งในสองคนนั้นก็คือพระยาพานั่นเองส่วนสาเหตุที่มีการตั้งชื่อว่าพระยาพานนั่นก็เพราะว่าตอนที่พระองค์เกิดนั้นนางรับใช้ได้นำพานมารองรับร่างของพระโอรสตอนที่เกิดใหม่ๆแล้วทำพานไปกระแทกที่บริเวณหน้าผากของพระโอรสจนเป็นแผลทำให้มีการตั้งชื่อตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

      อย่างไรก็ตามในช่วงที่พระยาพานเกิดใหม่ๆนั้นหมอหลวงได้ดูดวงให้กับพญาพานว่าแท้ที่จริงแล้วพญาพาฬนี้เป็นเด็กที่มีบุญญาธิการมาเกิดจะเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้าแต่ว่าจะมีการทำสิ่งที่ไม่ดีหรือที่เรียกว่าจะทำการฆ่าพ่อของตนเอง

ทำให้พระยากงที่ได้รู้เรื่องที่หมอหลวงทำนายนั้นเกิดอาการหวาดกลัวจึงได้ให้ทหารนำพยาบาลซึ่งในขณะนั้นยังเป็นเด็กทารกอยู่ไปฆ่าทิ้งเสีย เมื่อทหารนำพญาพานซึ่งเป็นเด็กทารกเข้าไปในป่าก็เกิดการเห็นใจจึงไม่ได้ฆ่าให้ตายแต่นำไปวางทิ้งไว้แทน

     หลังจากที่ทหารกลับไปแล้วก็มีหญิงชราเป็นหญิงชาวบ้านคนหนึ่งมาพบกับพระยาพานจึงได้เก็บพระยาพานไปและได้มอบพระยาพานให้กับเพื่อนบ้านเนื่องจากว่าเพื่อนบ้านนั้นอยากจะมีลูกแต่ไม่มีลูกสักทีเธอจึงได้รับเลี้ยงพญาพานเป็นลูกและเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูเป็นอย่างดีจนพยาพานนั้นเติบโตเป็นหนุ่มใหญ่ก็มีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาหลังจากโตขึ้นพระยาพานก็ได้ขอแม่บุญธรรมของตนเองออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆจนเดินทางไปถึงเมืองสุโขทัย

       ซึ่งในขณะนั้นเองมีเหตุการณ์ที่มีช้างตกมันกำลังอาละวาดทำลายบ้านเมืองชาวเมืองสุโขทัยต่างก็ได้รับความเดือดร้อนทำให้พระยาพานได้เข้าไปช่วยเหลือด้วยการปราบช้างตกมันเมื่อเจ้าเมืองสุโขทัยเห็นความเก่งกาจสามารถของพญาพานจึงได้ขอรับเลี้ยงพระยาพานมาเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อให้ปกครองเมืองหลังจากนั้นก็ได้มีการมอบหมายภารกิจให้ระยะทางไปทำนั่น

ก็คือการสั่งให้พระยาพานเป็นแม่ทัพใหญ่ นำกองกำลังทหารของเมืองสุโขทัยปีจอ เมืองศรีวิชัยซึ่งก็คือเมืองของพ่อของพญาพานนั่นเองแต่ด้วยคนทั้งคู่นั้นไม่รู้ว่าเป็นพ่อลูกกันจึงได้ทำการสู้รบกันและท้ายที่สุดแล้วพญาพานพอได้ฆ่าพญากงจนเสียชีวิต 

      ซึ่งก็ตรงกับตามคำทำนายของหมอหลวงนั่นเอง  อย่างไรก็ตามหลังจากที่ฆ่าพ่อตนเองตายแล้วพญาพาน ถึงได้รู้ความจริงว่าเมืองที่ตนเองมาตีนั้นคือเมืองของพ่อและแม่แต่ใช้ของตนเอง เมื่อเราความจริงจึงได้ถ่ายทอดด้วยการสร้างเจดีย์ขึ้นมาซึ่งในปัจจุบันก็คือองค์พระปฐมเจดีย์นั่นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  aesexy