เพราะอะไรไดโนเสาร์ถึงสูบพันธุ์  

สำหรับเรื่องของการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์เราเชื่อว่าหลายๆคนก็น่าจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้วก็เคยได้ยินกันมาบ้างว่ามันเกิดจากอุกกาบาตพุ่งชนโลกแล้วทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปกคลุมไปทั่วโลกแล้วก็ไม่มีอาการหายใจจนตายบ้างหรือภูเขาไฟได้มีการเกิดการระเบิดครั้งใหญ่

หรือภูเขาไฟใต้น้ำระเบิดอุณหภูมิโลกได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันเราก็จะเคยได้ยินกันมาประมาณนี้ จริงๆแล้วเราอยากจะบอกว่าการสูญพันธุ์ของพวกสัตว์ดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ทั้งหลายจริงๆแล้วมันไม่ได้มีการสูญพันธุ์เพียงแค่ครั้งเดียวตามข้อมูลที่เราได้ไปศึกษามาเขาบอกเอาไว้ว่าในอดีตที่ผ่านมามันเคยมีการสูญพันธุ์หรือโดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากธรรมชาติ

มามากกว่า5ครั้งแล้วจริงๆมันอาจจะเยอะไปกว่านี้ก็ได้แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้สรุปใจความได้แค่ว่าเคยมีการสูญพันธุ์ทั้งสิ้นมาแล้ว5ครั้งด้วยกันและในการเกิดเหตุการณ์เหล่านี้มันค่อนข้างที่จะมีระยะเวลาที่ยาวนานมันเลยทำให้ซึ่งที่มีชีวิตในยุคนั้นมันได้สูญพันธุ์ไปกว่า50-90%เลยก็ว่าได้โดยการสูญพันธุ์ในครั้งแรกเกิด450-440ล้านปีก่อนในยุคที่มีชื่อว่า ออร์โดวิเชียน-ไซลูเรียน หรือจะเรียกกันสั้นๆว่าปลายยุคออร์โดวิเชียน

โดยเหตุการณ์นี้มันได้เป็นผลมากจากยุคน้ำแข็งงที่มันทำให้ระดับน้ำทะเลได้ลดลงอย่างกระทันหันมันจึงทำให้ระบบนิเวทที่อยู่บริเวณน้ำตื้นที่อยู่ใกล้ชายฝั่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมากส่วนสาเหตุก็ได้มีการคาดเดากันว่ามันน่าจะเกิดจากการที่เทือกเขาแอปปาเลเชียนได้ยกตัวสูงขึ้นมันเลยทำให้มีหินผุดขึ้นมาใหม่ด้วย

โดยหินนั้นมันได้มีส่วนประกอบสิริเกตที่ทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่อยู่ภายในอากาศได้ถูกดึงออกไปเป็นจำนวนมากถ้าคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศในสมัยก่อนที่คาดเดาว่ามันน่าจะมีประมาณ7,000PPMเหลือเพียงประมาณ4,400PPMเพียงเท่านั้นเองและเมื่อประมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงมันก็เลนทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกมันได้ลดลงตามไปได้

มันเลยทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกได้ลดลงตามไปด้วยเพราะว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เราก็ได้รู้กันหมดแล้วว่ามันคือก๊าซเรืองกระจกและสาเหตุการณ์นี้มัมนเลยทำให้สิ่งที่มีชีวิตในทะเลได้สูญพันธุ์ไปกว่า85%จากจำนวนสายพันธุ์กันเลยทีเดียว จากที่เขาได้มีการบันทึกเอาไว้เขาได้บอกว่าสิ่งที่มีชีวิตที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในเหตุการณ์นี้นั้นก็คือ โคโนดอนต์ ไทรโลไบต์ และ แกรปโทไลต์ ซึ่งสามตัวนี้มันได้เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่จำพวกมีลักษณะคล้ายกับแมงดาในปัจจุบันนั้นเอง

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน แนะนํา

ตำนานคำสาปสุสานฟาโรห์

       เมื่อช่วงหลายร้อยปีก่อนหน้านั้น เคยมีคนที่ไม่เชื่อเกี่ยวกับเรื่องของคำสาป ได้เข้าไปท้าทายข้อความที่ได้มีการเขียนเอาไว้ในสุสานของฟาโรห์ Tutankhamun  ซึ่งเป็นฟาโรห์องค์ที่สิบสองของอียีปห์โบราณ และข้อความที่เขียนเอาไว้ว่าเป็นคำสาปในสุสานของ ฟาโรห์ Tutankhamun  นั้น

มีข้อความที่แปลได้ประมาณว่า หากใครก็ตามที่มายุ่งเกี่ยวและทำให้สุสานแห่งนี้ไม่สงบสุขแล้วละก็มันผู้นั้นจะต้องมีอันเป็นไป  และแน่นอนคนที่เข้าไปข้างในสุสานของ ฟาโรห์ Tutankhamun   และไปยุ่งกับสมบัติของฟาโรห์ Tutankhamun  ก็มักจะเสียชีวิต

อย่างปริศนา สำหรับประวัติขององค์ฟาโรห์ Tutankhamun  นั้นพระองค์สิ้นพระชนในวัยเพียงแค่ สิบแปดชันษาเท่านั้นเอง และเมื่อองค์ฟาโรห์ Tutankhamun  สิ้นพระชน พระองค์ก็ถูกพระญาติที่ต่อมาได้เป็นกษัตรต่อจากพระองค์ ได้ทำการลบชื่อออกจากของฟาโรห์ Tutankhamun   ออก

จากทำเนียบการเป็นกษัตร ซึ่งนั้นเองที่เป็นสาเหตุว่าทำไมถึงไม่มีนักประวัติศาสตร์คนใด รู้จักประวัติของพระองค์เลย  จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 เดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1922  คณะขุดทองชาวอังกฤษก็ได้พากันลักลอบเข้าไปขุดหาทองและหาสมบัติในสุสานดังกล่าว

ซึ่งสุสานแห่งนี้มีอายุเก่าแก่มากกว่าสามพันปีมาแล้ว และมีเรื่องเล่าออกมาว่านักขุดทองทั้งหมดที่ลักลอบเข้าไปหาสมบัติในสุสานของฟาโรห์ Tutankhamun  นั้นต่างก็ต้องมาสังเวยชีวิตให้กับสุสานของฟาโรห์ Tutankhamun   ด้วยกันทุกคน

ซึ่งแต่ละคนนั้นก็มีเรื่องราวชวนหัวลุกแตกต่างกันออกไปและทุกครั้งที่สุสานขององค์ฟาโรห์ Tutankhamun   ถูกคนเข้าไปรบกวนเมื่อใดก็ตามก็มักจะมีคนต้องเสียชีวิตต่อคำสาปลี้ลับนี้ทุกครั้งไป และนับตั้งแต่นักโบราณคดีค้นพบสุสานของฟาโรห์ Tutankhamun  แห่งนี้

และมีการเข้าไปสำรวจภายในของสุสานนั้นก็ปรากฏว่ามีคนที่ต้องเสียชีวิตเพราะสุสานฟาโรห์ Tutankhamun  แห่งนี้ไปแล้วไม่ต่ำกว่ายี่สิบคนมาแล้ว และเนื่องจากที่สุสานแห่งนี้มีคำสาปที่มีอาถัณฑ์นั่นเองทำให้องค์ฟาโรห์ Tutankhamun  นั้น

ยังคงได้พักผ่อนในสุสานแห่งนี้อย่างสงบเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันเพราะคำสาปนี้เปรียบเสมือนกับเป็นเกาะป้องกันไม่ให้ใครก็ตามที่หวังอยากจะได้สมบัติของฟาโรห์ Tutankhamun  ไม่สามารถเข้าไปรบกวนพระองค์ได้นั่นเอง

        สำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับสุสานขององค์ฟาร์โรห์ของอียิปห์นั้น มีนักโบราณคดี ค้นพบสุสานมากมายหลายสุสานด้วยกัน และทุกสุสานก็มักจะมีคำสาปที่เอาไว้สาปแช่งคนที่เข้าไปรื้อค้นทำลายความสงบข้างในสุสาน ซึ่งในสุสานขององค์ฟาร์โรห์ส่วนใหญ่แล้ว

จะไม่ได้มีแค่พระศพขององค์ฟาร์โรห์เท่านั้น แต่จะมีทหารที่ถูกฆ่าตายเพื่อให้มาคอยรับใช้องค์ฟาร์โรห์ด้วย ซึ่งอาจจะเป็นเหล่าทหารกล้าเหล่านี้ก็ได้ที่เข้ามาทำร้ายคนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับภายในสุสานนั้น

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  sagame

ทำไมมีประชากรอาศัยอยู่ขั้วโลกเหนือมากกว่าขั้วโลกใต้

สำหรับขั้วโลกใต้นั้นจะมีการเริ่มฤดูร้อนในช่วงเดือนธันวาคมยาวนานประมาณ5เดือนและจากนั้นจะเข้าสู่กลางคืนที่มีความยาวนานประมาณถึง5เดือนกันเลยทีเดียว ถิ่นที่อยู่อาศัย

เนื่องจากว่าขั้วโลกเหนือนั้นมันได้เป็นเขตแดนของหลายประเทศและมันก็ได้ทำให้ดินแดนที่มีความหนาวเย็นแห่งนี้มันก็ได้มีผู้คนที่ได้อาศัยอยู่หลากหลายอยู่แถวนี้ โดยเฉพาะคนพื้นเมืองได้แก่ชาวเอสกิโมจากทวีปอเมริกาเหนือชาวซามิจากทวีปอเมริกายุโรปและชาวยาครุสจากไซบีเรีย

ซึ่งชนชั้นเมืองเหล่านี้ก็ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้มาอย่างยาวนาน ซึ่งก็ได้มีประชากรที่ได้อาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือย่างถาวรประมาณ4ล้านคน สำหรับขั้วโลกใต้นั้น เนื่องจากว่าได้มีอากาศที่หนาวเย็นสุดโหดและยากต่อการดำรงชีวิตมันจึงไม่มีกลุ่มคนชนพื้นเมืองใดๆที่จะเข้ามาอยู่อาศัยเลย นอกจากนักวิทยาศษสตร์ประมาณ1,000-1,5000คนที่ได้ประจำการที่อยู่ในฐานปฏิบัติการเพื่อการวิจัยทั่วทั้งทวีปและดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้เข้ามาท่องเที่ยว

ในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น สำหรับสัตว์พื้นถิ่นในขั้วโลกเหนือมันก็ได้เป็นสถานที่ที่ได้มีสัตว์นานาชนิดอย่างเช่น กวางเรนเดียร์วัวมัสค์กระต่ายอาร์กติกสุนัขจิ้งจอกอาร์กติกและหมีขั้วโลกการที่ขั้วโลกเหนือนั้นได้มีสัตว์นานาชนิดได้อาศัยอยู่ เนื่องมาจากทวีปอาร์กติกได้มีพื้นที่ที่มันเป็นส่วนหนึ่งของทวีปยุโรปทวีออเมริกาเหนือและทวีปเอเชีย

สำหรับสัตว์ต่างๆเหล่านี้มันจะอพยพมาจากทางตอนใต้ของขั้วโลกเหนือในช่วงฤดูหนาวและพวกมันก็จะอพยพเข้ามาในช่วงฤดูร้อน สำหรับขั้วโลกใต้นั้นมันก็ได้มีสัตว์ที่ได้เข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนน้อยมากซึ่งมันก็ได้เป็นที่อยู่ของแมลงเจ้าถิ่น

ซึ่งมันได้เป็นแมลงที่ไม่มีปีกขนาดเล็กที่มีความสามารถเก็บรักษาความอบอุ่นเอาไว้ในร่างกายได้นอกจากนี้มันก็ยังได้มีสัตว์อื่นๆอีกหลากหลายชนิดอย่างเช่นแมวน้ำและเพนกวินสุดน่ารักนัั่นเองสำหรับสภาพภูมิกาศถึงแม้ว่าขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้จะมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างสุดขั้วแต่อันที่จริงแล้วสภาพอากาศของขั้วโลกใต้มีความหนาวกว่าขั้วโลกเหนือมาก

ซึ่งสาเหตุนั้นมันได้มาจากพื้นของขั้วโลกเหนือนั้นมันได้เป็นน้ำแข็งซึ่งมันก็ได้แข็งตัวมาจากน้ำทะเลที่มันได้มีความหนาของน้ำแข็งไม่มากนักและน้ำทะเลก็มีอุณหภูมิที่อุ่นกว่าสภาพอากาศและความอบอุ่นจากน้ำทะเลนั่นเอง

มันได้ถูกส่งเข้ามาทางน้ำแข็งมันจึงทำให้อุณหภูมิของขั่วโลกเหนือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณลบ43องศาเซลล์เซียนถึงลบ26องศาเซลล์เซียนในขณะที่ขั้วโลกใต้ก็ได้ชื่อว่าที่เป็นดินแดนที่มีากาศหนาวมากที่สุดของโลก

 

สนับสนุนโดย  ติดต่อ bk8

ความใฝฝันของ Christian

ความใฝฝันของ Christianที่อยากผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพเป็นของตัวเอง

ย้อนกลับไปเมื่อ48ปีที่แล้วที่สวีเดน ในวันที่ 2กรกฎาคม1972 ก็ได้มีเด็กน้อยที่ชื่อว่า Christian Erland Harald von Koenigsegg ก็ได้ลืมตามองโลกขึ้นมาพร้อมกับเพนชั่นที่มีอยู่เต็มตัวของเขา

หลายๆคนก็อาจจะคิดว่ามันก็คงจะเหมือนกับEnzo Ferrariหรือ Bruce McLaren ที่ฝันในวัยเด็กที่อยากจะไปนั่งหลังพวงมลัยรถแข่งเพื่อที่จะได้เป็นนักแข่งรถ แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เพราะตัวของเขานั้นไม่ได้อยากที่จะเป็นนักแข่งรถแต่อย่างใดตัวของเขานั้น

ก็ได้ขยับขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ปเขาอยากที่จะเขารถเอาไว้เป็นของตัวเองและความฝันที่ใหญ่โตที่มันยากเกินกว่าที่เขานั้นจะทำได้ซึ่งตัวของเขานั้นก็ได้เริ่มต้นเพียงแค่อายุ5ขวบเท่านั้น Christianน้อยได้ไปดูหนังที่นอร์เวย์ที่มีชื่อว่าPinchcliffe Grand Prixมันได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคนที่ซ่อมจักรยานยนต์ธรรมดาๆ

แต่สุดท้ายตัวของเขาเองนั้นก็ได้สร้างรถขึ้นมาได้อย่างสำเร็จและก็ชนะการแข่งขันฟอร์มูล่าวันและนี่มันก็ได้เป็นจุดประกายไฟที่ทำให้ Christianเขาก็ได้ตั้งประนิทานกับตัวเองว่าฉันจะต้องสร้างรถสปอร์ตให้สมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาให้ได้หลังจากที่ตัวของเขานั้นคิดได้พอเขานั้นได้มีอายุเพียง8ขวบก็ถือว่าโตขึ้นมาในอีกวัยหนึ่ง

จากนั้นตัวของเขาเองก็ได้โชว์การถอดรถมอไซค์ได้หมดทั้งคันพอเขาได้อายุ15ขวบจากนั้นเขาก็ได้เข้าไปทำงานไปเป็นเซลล์คนขายรถมอไซค์มือสองและด้วยครองครัวของ Christianนั้นเขาไม่ได้มีเงินทองมากมายมาตั้งแต่เกิดเขาจึงยอมทำทุกๆอย่างเพื่อเงินทุนที่มันจะทำให้ตัวของเขานั้นได้ไปเปิดบริษัทที่จะสร้างรถยนต์ขึ้น

มาเป็นของตัวเองแต่อีกหนึ่งสิ่งที่ Christianเขาได้เรียนรู้มาจากธุรกิจของครองครัวนั่นก็คือความรู้นอกห้องเรียนมันสำคัญกว่าในห้องเรียนเพราะหลายๆอย่างที่ตัวของเขานั้นได้ทำมาทั้งหมดมันหาเงินได้และมันก็ไม่ได้มีสอนในห้องเรียนมันจะต้องไปเรียนรู้ด้วยตัวเอง

จากโลกภายนอกเท่านั้นเมื่อปี1990เมื่อตัวเขาเองได้มีอายุ18ปีเขาก็ได้เริ่มนั่งคิดทบทวนกับตัวเองและดูมีความจริงจังเป็นอย่างมากเรื่องที่เขานั้นจะหาเงินจากที่ไหนมาสร้างรถยนต์ของเขาเริ่มจากชิบที่ผลิตเอามาแทนแผ่นซีดีแต่ก็ต้องถูกตัดไอเดียนี้เอาทิ้งไป

เพราะในยุคนั้นการแบกเครื่องเล่นซีดีมันแมนเดินฟังเพลงไปด้วยเปิดเพลงไปด้วยมันเท่จริงๆหากใครที่เกิดในยุค90แล้วคงจะเข้าใจดีและมันเท่เอามากๆเลยทีเดียวจากนั้นประมาณอีหหนึ่งปีในปี1991เขาก็ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่มาจากพ่อเลี้ยงที่เป็นโรงงานผลิตพื้นบ้านซึ่งในสมัยนั้นการที่จะแปะพื้นลงไปก็ต้องใช้ตะปูตอกลงไปให้สนิกกันเขาก้ได้คิดว่าจะใช้ตะปูตอกไปทำไมถ้าทำให้พื้นมันติดไปเลยมันน่าจะดีกว่า

 

สนับสนุนโดย  rb88 thai

คุณจะทำอย่างไรหากติดอยู่ที่เกาะโดยที่ไม่มีอะไรเลย

ใครเคยดูภาพยนตร์คนหลุดโลกก็จะต้องรู้เลยว่าการที่จะเอาชีวิตรอดจากทะเลและที่เกาะร้างที่ห่างไกลนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่หน้าง่ายเลยถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่เพียงเรื่องแต่งมันก็ลุ้นเป็นอย่างมากแต่ถ้าหากว่าได้เป็นเรื่องราวของชายคนนี้คุณอาจจะต้องตกใจอย่างแน่

เพราะเขาสามารถที่จะเอาตัวรอดบนเรือเล็กกลางทะเลได้นานกว่า438วันหรือหนึ่งปีกว่าๆเลยทีเดี่ยว หากอยากรู้ว่าเขานั้นได้มีเทคนิคของสภาพชีวิตเป็นอย่างไรบ้างเรามาดูพร้อมๆกันเลย

หากวันหนึ่งคุณนั้นกลับซวยขึ้นมาจะต้องลอยอยู่กลางทะเลที่สุดลูกหูลูกตาในแดดที่ร้อนสุดๆหากได้เป็นคุณแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหนกัน 1วัน2วัน หรือ1สัปดาห์กันแน่ แต่ก็เช่อเถอะว่าอย่างน้อยมากที่สุดก็อาจจะประมาณ1-3วันเพราะมันเป็นช่วงสูงสุดที่มนุษย์คนเรานั้น

จะทนได้จากการรอคอและขาดน้ำหากนานไปกว่านั้นร่างกายอาจจะแย่เริ่มจากเวียนหัวอะไรอวัยวะทำงานผิดปกติจนทำให้ตัวเรานั้นหมดลมหายใจในที่สุดเห็นหรือไม่ว่าการที่ไม่ได้ดื่มน้ำแล้วมันน่ากลัวมากขนาดไหนแต่อย่าไปกิยน้ำในทะเลล่ะ

เพราะมันจะไปกระตุ้นทำให้ร่างกายเรานั้นขาดน้ำเข้าไปอีกหากหิวน้ำมากแค่ไหนก็ต้องทนหรือรอฝนตกลงมาเพื่อกินน้ำจืดเท่านั้นหรือถ้าหากว่าคุณนั้นมีแพหรือว่าเรือลำเล็กสักหน่อยอาจจะมีสิทธิ์ไม่ต้องว่ายน้ำให้เหนื่อยและหาสัตว์น้ำทะเลกินประทังชีวิตได้อีกหลายมื้อ

หากไม่มีก็จบแต่เดี๋ยวคุณอย่าเพิ่งหวัดไปไกลสภาพอากาศและของที่อยู่ในเรือมันก็ยังได้เป็นตัวที่บ่งชี้ได้เลยว่าตัวคุณจะอยู่หรือไปอีกด้วยหากได้เป็นเรือเล็กที่ไร้หลังคาไม่มีอุปกรณ์ใดๆที่จะให้ความอบอุ่นใดแล้วล่ะก็บอกได้เลยว่าต้องรอให้คนมาเจอคุณไวๆแล้วแหล่ะ

หากตัวคุณนั้นได้อยู่กลางอากาศที่มีความร้อนมากเท่าไรมันก็จะทำให้ร่างกายของคุณนั้นขาดน้ำและมีความหิวได้หากมีสภาพอากาศที่เย็นจนเกินไปร่างกายของคุณนั้นก็จะทนไม่ไหวอีกเช่นเดียวกันดังนั้นนอกจากน้ำแล้วก็อาหารแล้วในส่วนของสภาพอากาศมันก็จะมีผลมากๆ

หากไม่มอุปกรณ์อย่างมีดเบ็ดตกปลาและปืนยิงขอความช่วยเหลือโอกาสที่คุณนั้นจะขึ้นมาบนฝั่งมันก็จะน้อยลงไปอีกแต่ทว่าสถานการณ์ที่เรานั้นได้เหล่ามานี้ซึ่งมันก็ได้มีชายคนหนึ่งที่เขานั้นได้รอดชีวิตมาได้ทั้งที่ไม่มีอะไรยังชีพผ่านคลื่นลมและฉลามมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  bk8 pantip

ตำนานของศาลพันท้ายนรสิงห์

วันนี้เราจะมาพูดเรื่องที่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งถือได้ว่าได้เป็นสถานที่แห่งตำนานได้เป็นเรื่องราวของนายท้ายเรือคนหนึ่งที่ยอกสละชีวิตตัวเอง

เพื่อรักษากฎและความถูกต้องเอาไว้และที่เราจะพูดถึงนั้นก็คือ ศาลพันท้ายนรสิงห์ และเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้จะเป็นอย่างไรไปดูกันกรมศิลปากร ได้กำหนดเขตเมื่อปี2498 ก็ประมาณ64ปี ซึ่งได้มีพื้นที่ประมาณ100ไร่ และเรื่องราวต่อไปนี้มันมีความเป็นมาที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของประเทศไทยคือ พันท้ายนรสิงห์

ซึ่งในสถานที่แห่งนี้ได้มีการจดบันทึกเอาไว้ในพระราชพงศาวดารในส่วนของฉบับต่างๆในสมัยของกรุงศรีอยุธยาได้มีบันทึกเอาไว้ตรงกันเกือบจะทุกฉบับ แต่ว่าเนื้อความที่ได้บันทึกเอาไว้ในพงศาวดารนั้นมันกลับมีน้อยมากและ เรื่องราวคร่าวๆมันมีแบบนี้ก็คือสมเด็จพระเจ้าเสือนั้นได้เสด็จมาที่คลองปากน้ำสาครบุรี ซึ่งได้เป็นคลองโคกขามที่อยู่ด้านหลัง

โดยมีพันท้ายคอยทำหน้าที่คัดท้ายเรือเมื่อสมัยก่อนนั้นในคลองโคกขามช่วงนั้นได้เป็นคลองที่มีความคดเคี้ยวตอนนั้นน้ำไหลแรงมากด้านพันท้ายนั้นจึงไม่สามารถที่จะคัดท้ายเรือได้ทันจึงทำให้หัวเรือของพระเจ้าเสือนั้นได้หักลงจมในน้ำและโดยโทษในสมัยก่อนนั้นก็จะต้องประหารชีวิตจากนั้นมากทางฝ่านของพันท้ายก็ได้ขึ้นมาที่ฝั่งและได้กราบทูลต่อพระเจ้าเสือและได้กล่าวว่าให้พระเจ้าเสือนั้นประหารชีวิตตนเอง

นอกจากนี้ฝ่ายของพระเจ้าเสือก็ได้เห็นว่ามันได้เป็นเหตุสุดวิสัยและก็ไม่มีใครที่อยากจะทำให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ได้พระราชทานอภัยโทษให้จากนั้นทำให้ด้านพันท้ายนรสิงห์นั้นกลับไม่ยอมก็ได้เข้าไปกราบทูลต่ออีกว่ายังไงก็จะต้องประหารชีวิตเพราะว่ากฎมณเฑียรบาลได้บันทึกเอาไว้แบบนั้นจากนั้นพระเจ้าเสือได้สั่งการให้ทหารที่ได้ลงเรือมาด้วยกันให้นำเอาดินเหนียวที่ได้อยู่ในคลลองให้นำเอามาปั้นเป็นหุ่นคนจากนั้นก็ได้ทำการประหารแทนตัวพันท้ายนรสิงห์

จากนั้นก็ได้สั่งให้นายพันท้ายนรสิงห์นั้นขึ้นเรือและให้กลับไปทำหน้าที่ต่อจากนั้นนายพันท้ายนรสิงห์ก็ได้เข้าไปกราบทูลอีกครั้งเพื่อให้ได้ทำการประหารตัวของพันท้ายจริงๆท้ายที่สุดแล้วพระเจ้าเสือเองก็จะต้องจำใจที่จะต้องสั่งให้ประหารชีวิตพันท้ายนรสิงห์

จากนั้นมาก็เลยกลายมาเป็นสถานที่สร้างศาลแห่งนี้ขึ้นมา ซึ่งพันท้ายนรสิงห์นั้นได้เป็นคนที่ได้ยอมเสียสละเพื่อที่ตัวของเขานั้นจะรักษากฎมณเฑียรบาลเอาไว้และไม่ให้มีข้อผิดพลาดที่จะมาติพระเจ้ามหากษัตริย์ได้ว่าละเลยพระราชกําหนดที่ตัวพระองค์นั้นได้กำหนดขึ้นมา

 

สนับสนุนโดย  next88 บาคาร่า

ตึกน้ำตกสูงจากประเทศจีนที่ดูน่าทึ่งอย่างมาก

น้ำตกจากตึกสูง

สำหรับรูปภาพเหล่านี้มันได้เป็นภาพน้ำตกที่มันได้ไหลลงมาจากตึกที่มีขนาดสูง ซึ่งมันได้เป็นความคิดของบริทัษประเทศจีนที่เขาได้มีความคิดที่จะสร้างน้ำตกที่มีระดับความสูงประมาณ121เมตร สิ่งที่เขาคิดจะทำนั้นเพราะหวังว่ามันจะเป็นสิ่งเดียวของประเทศจีน

ทั้งนี้ก็ยังได้มีรายงานออกมาจากสื่อมาว่า ด้านบรรดาชาวบ้านในเมืองกุ้ยหยางที่ได้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนก็จะต้องตกใจ หากเขาได้เห็นภาพของอาคารLiebian ที่ได้มีความสูงประมาณ121เมตร ที่ได้จัดตั้งอยู่ในช่วนของนักธุรกิจของเมืองที่ตัวตึกนั้นได้มีน้ำตกไหลลงมาด้านล่างอย่างอลังกาลงานสร้าง

และยังได้เป็นอะไรที่ทำให้ชาวบ้านที่ได้อยู่ในบริเวณนั้นต้องทึ่งกับสิ่งเหล่านี้จำนวนมาก ทั้งนี้ในพื้นที่แถบที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกนั้น ซึ่งมันจะค่อนข้างที่จะอากาศค่อนข้างร้อนมาก เนื่องจากข่าวที่ได้มีการรายงานได้บอกว่าด้านน้ำตกนั้นได้ไหลออกมาจากตัวนอกอาคาร

ที่ได้มีระดับความสูงอยู่ที่ประมาณ108เมตรจากนั้นก็จะไหลลงมาด้านล่างที่ได้มีอ่างรอบรับอยู่แล้วด้านของตัวตึก สำหรับการสูบน้ำของเครื่องนั้นมันจะต้องใช้เครื่องสูบน้ำที่มันได้มีระดับความแรงอยู่ที่ประมาณ185กิโลวัตต์จำนวนประมาณ4ตัวด้วยกันถึงจะสามารถสูบน้ำขึ้นไปยังด้านบนของตัวตึกได้ นอกจากนี้น้ำที่ได้ใช้สูบขึ้นไปและได้ปล่อยลงมาสูบด้านล้างนั้น

มันก็จะหายไปกลางอากาศมากกว่าที่น้ำนั้นมันจะตกลงมาสู่ที่ด้านล่าง สาเหตุนี้ นี่เองมันก็ได้ทำให้ใครหลายๆคนต่างก็ได้วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างละความคิดบ้างคนก็ได้พูกกล่าวออกมาว่ามันก็ยังได้มีความสวยที่มองดูแล้วมันแปลกตาซึ่งมันอาจจะเป็นแลนด์มาร์คที่สวยงามให้กับเมืองก็ได้

อีกทั้งคนบ้างส่วนนั้นก็ได้วิพากษ์วิจารณ์กันได้อีกว่ามันเป็นการที่ใช้กระแสไฟฟ้าโดยสิ้นเปลืองและนำเอาน้ำไปใช้โดยที่ไม่ได้มีเหตุอันควรอะไรเลยสิ้นเปลืองมากๆ แต่เนื่องจากทางด้านโคสกของบริทัษของอสังหาริมทรัพย์ของสถานที่แห่งนี้นั้นก็ยังได้พูดเอาไว้ว่า ในส่วนของน้ำที่ได้นำสูบขึ้นไปใช้นั้นมันเป็นน้ำที่ได้มาจากน้ำฝนและน้ำที่ได้ผ่านกระการรีไซเคิลอย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งทางด้านของบริทัษเองก็ยังได้หวังว่ามันจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศจีน แต่ถึงอย่างไรตึกที่มันได้มีระดับความสูงอยู่ที่ประมาณ108เมตรนี้

อย่างไรมันก็จะต้องใช้เครื่องสูบน้ำประมาณสี่ตัวจึงได้มีค่าไฟตกอยู่ที่ประมาณ800หยวนหรือประมาณ3,682.89บาท เนื่องจากนี้ทางด้านบริทัษเองจะไม่เปิดโชว์น้ำตกในทุกๆวัน ซึ่งจะเปิดในวันโอกาศที่สำคัญเท่านั้น

 

สนับสนุนมาจาก  entaplay ดี ไหม

รถยนต์หุ้มเกราะที่มีความพิเศษ

รถยนต์หุ้มเกราะที่มีความพิเศษแบบที่ไม่กล้าเปิดเผยกันเลยทีเดียว

ประเทศเกาหลีใต้/Hyundai Equus VL500Limousine

Hyundai ได้เป็นหนึ่งในรถยนต์ในสัญชาติของประเทศเกาหลีภายในไม่กี่รุ่นที่จะสามารถไปเทียบกับฝั่งรถทางยุโรปได้และในเช่นเดียวกันกับประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีนที่ได้ใช้รถในสัญชาติเองนั้นนำเอามาเป็นรถยนต์ประจำตำแหน่งอย่างเจ้าHyundai Equus VL500Limousineคันนี้

มันได้กลายให้ถูกเลือกให้มาเป็นรถยนต์ที่ประจำตำแหน่งของท่านประธานาธิบดีในประเทศเกาหลีใต้ในโดยปริยายและแน่นอนว่าอย่างเจ้าLimousineที่สุดหรูหราในคันนี้มันได้ถูกอันแน่ไปด้วยระบบความปลอดภัยอย่างเต็มคันและยังเพียบพร้อมไปด้วยความเต็มพิกัดเพื่อที่จะให้เหมาะสมกับตำแหน่งและฐานะประธานาธิบดีในประเทศของเกาหลีใต้นั่นเอง

ประเทศออสเตรีย/BMW7-Series

 สำหรับรถยนต์ประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีของประเทศออสเตรียนั้นจะมีการใช้รถยนต์ที่หรูที่เป็นรถยนต์ที่ดูหรูหราและมีขนาดใหญ่อย่างBMW7-Seriesซึ่งถือได้ว่าเป็นรถธงหรือเป็นรถยนต์ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดได้มีความโด่งดังเป็นอย่างมากที่สุดและยังมีความสมบูรณ์แบบมากที่สุดจากทางบริษัทของBMWโดยมันจะได้ถูกนำมาจัดให้อยู่ในประเภคเดียวกัน

กับรถยนต์ของผู้นำในหลายๆประเทศอย่างจากัวร์ xjและออดี้ a8และในส่วนของระบบในความปลอดภัยนั้นก็ได้จัดเต็มกันมาเลยและสำหรับBMW7-Seriesคันนี้เพราะทั้งตัวกระจกและตัวรถนั้นก็ได้ถูกหุ้มไปด้วยเกราะกันกระสุนที่ติดเอาไว้รอบตัวรถกันเลยทีเดียว

ประเทศรัสเซีย/Aurus Senat

ว่ากันว่าในตามปกติแล้วหน้าที่นี้จะเป็นของรถเบนซ์เอสคลาสติดเกราะแต่สำหรับในปัจจุบันแล้วมันได้กลายมาเป็นAurus Senatคันใหม่ของนายกปูตินประธานาธิบดีประเทศรัสเซียโดยAurus Senatจะเข้ามาทำหน้าที่แทนรถยนต์คันเก่าและยังมีความอลังกาลมีความปลอดภัยที่ไม่แพ้ไปจากรถยนต์ของปประเทศสหรัฐโดย Aurusได้เป็นรถยนต์ที่กันกระสุนของประเทศรัสเซียที่ได้ถูกสร้างขึ้นมา

โดยพิเศษตามคำต้องการของท่านผู้ที่เป็นผู้นำทั้งในส่วนของความสะดวกสบายและความปลอดภัยและสำหรับของ Aurusนั้นได้มีขนาดที่ใหญ่โตมีคงามอลังการกว่ารถยนต์คันเดิมโดยตัวถังของ Aurusนั้นได้มีความยาวอยู่ที่ประมาณ6.6เมตรมีความกว้าง2เมตรและมีน้ำหนักประมาณ6.5ตันสำหรับเครื่องยนต์นั้นต้องบอกเลยว่าแรงเอามากๆเลยที่เดียวเครื่องยนต์นั้นจะใช้เป็นเครื่องยนต์V8ที่มีขนาด4.4ลิตรที่ให้ความแรงมากที่สุดถึง598แรงม้า

แและยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบฟูลทามและในขณะที่ลายละเอียดอื่นๆของทางผู้ที่ได้รับหน้าที่หลักในการพัฒนาเจ้า Aurusของประเทศรัสเซียนั้นก็ได้เก็บเอาไว้เป็นความลับสุดยอดเช่นมีความสามารถที่จะกันกระสุนและกันแรงระเบิดได้ในระดับไหนอย่างไรก็ไม่มีบอกแต่เชื่อได้เลยว่ารถยนต์ของประธานาธิบดีคันนี้จะต้องยิ่งใหญ่และสมเกียรติอย่างประธานาธิบดีปูตินอย่างแน่นอน

บุคคลที่คุณได้ยินชื่อและความสามารถของเขาแล้วคุณจะกลัวทันที

คุณเคยหรือไม่ในเวลาที่เราจะพบเจอใครสักคนนั้นแต่ตัวเราเองก็ได้เกิดความรู้สึกว่าคุณไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเหมือนอย่างกับเราที่ได้พบกับเครื่องจักรกลเหล่าสังหารที่มันสามารถที่จะฆ่าคุณได้ตลอดเวลาโดยที่ตัวคุณเองนั้นยังไม่ได้ทันที่จะกระพริบตาด้วยซ้ำและวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูเหล่าผู้คนที่มีความแข็งแกร่งรวดเร็วและยังเท่สุดๆกับบุคคลที่คุณไม่ควรจะเข้าไปยุ่งด้วย

Meena Raghavan 

คุณลองทำหัวให้โล่งๆและคิดถึงภาพคุณหญิงแก่อายุประมาณ78ปีดูส่วสนมากพวกเธอเหล่านี้อาจจะเป็นคุณย่าหรือไม่ก็เป็นคุณยายที่ชอบเลี้ยงหลานๆอยู่ที่บ้านดูทีวีเย็บปักถักร้อยและก็ชอบบ่นถึงเร่องนั่นเรื่องนี่อยู่บ่อยๆแต่ว่าคุณหญิงคนนี้คือ มีนา Raghavan และแน่นอนว่าเธอนั้นไม่ใช่คุณยายธรรมดาๆอย่างที่พวกคุณนั้นคิดกันในวันนี้เธอได้เป็นคนที่อาวุโสมากที่สุดในโลก

ที่ได้ฝึกสอนวิชาพละคายัคตู่ ซึ่งได้เป็นการต่อสู้แบบโบราณจากทางตอนใต้ของ อินเดีย Raghavan นั้นก็ได้เริ่มฝึกซ้อมตั้งแต่อายุเพียง7ขวบและถึงแม้ว่าจะมีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงแต่งงานแล้วนั้นฝึกศิลปะการต่อสู้นี้แต่เธอก็ยังคงฝึกต่อไปเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้หญิงก่คนนี้นั้นได้กลายมาเป็นผู้ที่เชียวชาญทางด้านศิลปะการต่อสู้โดยเธอก้ได้เปิดโรงเรียนสำหรับทำการสอนทั้งเด็กผู้หญิงเด็กผู้ชายชายหนุ่ม และ หญิงสาวอีกด้วย 

Giga Uguru

สำหรับ Giga Uguruผู้ที่เป็นนักสู้ผู้ที่มีมากฝีมือและยังมีความแข็งแกร่งและรวดเร็วจนดูเห็นว่าจะไม่มีใครที่สามารถล้มเขาได้เขายังได้เคยฝึกซ้อมกีฬาต่างๆมามากมายแต่ตั้งที่เขานั้นยังเป็นเด็กเขาได้เริ่มฝึกเทวันโดตั้งแต่เขาอายุได้เพียง4ขวบเท่านั้นซึ่งก็ถือว่าเริ่มไว้มากๆจนทำให้อดสงสัยไม่ได้เลยว่าทำไมเด็กตัวเล็กแค่นั้นถึงจะมาชื่นชอบกีฬาได้โดยเขาก้ได้ฝึกซ้อมตั้งแต่นั้นมาเลยทีเดียวแต่นั้นนอนว่าเค้าไม่ได้กำกัดตัวเองอยู่แค่ในศาสตร์

การต่อสู้เพียงศษสตร์เดียวซึ่งในตอนที่เขานั้นได้อายุเพียงแค่10ขวบ Giga ก็ได้เริ่มฝึกการต่อยมวยต่อด้วยคาราเต้คาสมาทกล้าศิลปะการต่อสู้มือเปล่าของทหารอิสราเอลนั่นเองหลังจากที่เขานั้นได้เชียวชาญศาสตร์ทั้งหมดนี้แล้ว Giga เองก็ยังไม่ได้หยุดแต่เพียงแค่นั้นแต่เขาก็ยังได้เพิ่มความสามารถในการพาดโผงเข้าไปในการฝึกซ้อมอีกด้วยและมันไม่ได้แค่การติวแบบธรรมดาโดยทั่วไปแต่เป็นตัวสตั้นของจริงแต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีใครที่จะเชื่อความสามารถของ Gigaพวกเขาคิดว่าเทคนิคของเขาใช้ไม่ได้ผมในการต่อสู้จริงๆ

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงบอลออนไลน์2020

ประวัติศาสตร์ของผาแต้ม

ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข24ได้เป็นถนนหลวงสายหลักเส้นหนึ่งที่นำทางจากผู้คนตอนล่างและตอนกลางของประเทศไปยังจังหวัดอุบลราชธานี

ซึ่งได้เป็นจังหวัดที่ใหญ่จังหวัดหนึ่งของทางภาคอีสานที่ได้มีเขตดินแดนติดต่อกับ สปป. ลาว  จังหวัดอุบลราชธานีเป็นดินแดนอยู่ติดริมน้ำโขงและแม่น้ำมูลอันเป็นที่อุดมสมบูรณ์นานหลายพันปีมาแล้วพื้นดินที่นี้ได้ถูกจับจองจากผู้คนต่างยุคหลายสมัยเพื่อที่จะได้ตั้งเป็นชุมชนถิ่นอาศัย

ซึ่งในปัจจุบันได้มีการค้บพบของในยุคโบราณก่อนประวัติศาสตร์อยู่หลายแห่ง ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีไปทางเหนือประมาณ5กิโลเมตรที่นี้คือ วัดบ้านก้านเหลือง ซึ่งภายในได้มีการแสดงหลุมขุดค้นซึ่งเป็นส่วสนหนึ่งของแหล่งโบราณคดีที่ชื่อเดียวกันกับวัดแหล่งโบราณคดีบ้สนก้านเหลืองมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างใหญ่แต่ที่หน้าเสียดายที่หลักฐานจำนวนมากถูกทำลายจำการพัฒนาพื้นที่โดยเฉพาะเครื่องปั่นดินเผาประเภคต่างๆ

หลุมที่ได้ขุดค้นนี้ได้ขุดพบเครื่องดินเผาที่มีขนาดใหญ่ไม่น้อยกว่า15ใบทั้งหมดนนี้มันยังถูกตั้งอยู่ในตำแหน่งเดิมที่ได้พบเป็นครั้งแรนักโบราณคดีได้เชื่อว่าบริเวณที่แห่งนี้แต่เดิมมันหน้าจะเป็นหลุมฝั่งศพเพราะจากไขดินเผาที่ได้ขุดเจอถึงแม้ว่าจะไม่พบโครงกระดูกมนุษย์นั้นหลงเหลืออยู่แต่ก็มีหลังฐานทางวิทยาศาสตร์บางอย่างบ่งบอกว่าไหเหล่านี้

เคยมีโครงกระดูกมนุษย์บรรจุอยู่แต่มันอาจจะพุพังสหลายไปแล้วจากการศึกษาทางโบราณคดีได้ระบุเอาไว้ว่าเหล่าโบราณคดีบ้านก้านเหลืองมีประวัติการใช้พื้นที่ทับซ้อนกันราว2สมัยครั้งแรกได้อยู่ก่อนสมัยในประวัติศษสตร์ตอนปลายหรือในสมัยเหล็กอายุประมาณ2,800ถึง2,500ปีมาแล้วโดยได้มรหลักฐานบ่งชี้คือเศษสำริด เศษเหล็ก ลูกปัดแก้ว หินดุด และเศษภาชนะดินเผา

ส่วนในยุคที่2 อยูในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายต่อเนื่องกับสมัยประวัติศาสตร์ตอนต้นหลักฐานสำคัญได้แก่ ภยกาดินเผาเคลือบน้ำดินสีแดง แวดินเผา แท่งดินเผา ลูกปัดดินเผา กระพรวน สำริด และ ขวานเหล็ก ห่างจากวัดบ้านก้านเหลือไปอีกประมาณราวๆ90กิโลเมตรเศษที่นี้คือ ผาแต้ม ซึ่งได้เป็นแหล่งอารยธรรมอีกแห่งที่ยืนยันว่าได้เคยมีมนุษย์อาศัยอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานีเมื่อหลายพันปีมาแล้ว

ผาหินกว้างริมน้ำโขงในอดีตมันคือพื้นที่ต้องห้ามชาวบ้านที่อาศัยหากินในถิ่นนี้พวกเขาจะไม่เอาร่างกายเดินเข้ามาที่ริมผาเพราะเชื่อว่าเป็นที่ดินแดนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้ลวงล้ำมักจะเกิดเหตุร้ายอาจจะเจ็บไขได้ป่วยหรือถึงขั้นเสียชีวิตแต่ความลับของผาแต้มก็ได้ถูกเปิดเผยเมื่อขณะอาจราย์และนักศึกษาภาควิชามานุษยวิทยา คณะโบราณคดีก็ได้เดินทางมาสำรวจพื้นที่หลังมีการค้นพบภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ติดฝังอยู่แนวหินผาหลายจุด