ธรรมชาติของศิลปะ

การสื่อสารวิทยาศาสตร์อุทยาน ธรรมชาติ และวัฒนธรรมผ่านศิลปะ ศิลปะได้หลอมรวมธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์มาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ธรรมชาติของศิลปะ

มรดกทางศิลปะของอลาสก้าเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีอันยาวนานและมีความสำคัญในการทำความเข้าใจ แบ่งปัน และอนุรักษ์อุทยานและพื้นที่คุ้มครองที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่แนวความคิดของสวนสาธารณะจะถูกวางกรอบ ศิลปินและผลงานศิลปะของพวกเขาได้รับการสนับสนุนสำหรับการสำรวจอยู่แล้ว และบางครั้งก็ปกป้องสถานที่พิเศษที่พวกเขารู้จัก

ศิลปะได้หลอมรวมธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์มาเป็นเวลาหลายศตวรรษ มรดกทางศิลปะของอลาสก้าเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีอันยาวนานและมีความสำคัญในการทำความเข้าใจ แบ่งปัน และอนุรักษ์อุทยานและพื้นที่คุ้มครองที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่แนวความคิดของสวนสาธารณะจะถูกวางกรอบ ศิลปินและผลงานศิลปะของพวกเขาได้รับการสนับสนุนสำหรับการสำรวจอยู่แล้ว และบางครั้งก็ปกป้องสถานที่พิเศษที่พวกเขารู้จัก

ศิลปินในฐานะล่ามและผู้สนับสนุนพื้นที่คุ้มครอง ภาพวาดเรือไอน้ำนอกชายฝั่งจากภูเขา การค้นพบนอกชายฝั่งในอ่าวไอซี่ พ.ศ. 2337 NOAA ศิลปินได้ร่วมกับนักสำรวจในการเดินทางหลายครั้ง โดยได้นำภาพทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ สิ่งมีชีวิตที่แปลกและสวยงาม วัฒนธรรมที่หลากหลาย ท้องฟ้าที่ยังไม่ถูกทำลาย น้ำ และภูมิประเทศ และบันทึกภาพแรกสุดของสถานที่ต่างๆ

สวนสาธารณะ (รูปที่ 2) ศิลปิน George Catlin ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2375 ในการก่อตั้ง “อุทยานของประเทศที่ประกอบด้วยมนุษย์และสัตว์ร้าย ในป่าและความสดของความงามตามธรรมชาติของพวกเขา” (Mackintosh 1999)

เมื่อนักสำรวจและนักเดินทางลงจอดในอลาสก้า พวกเขาได้พบกับประเพณีศิลปะพื้นเมืองที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดี

ซึ่งได้รับการขัดเกลาจากประสบการณ์หลายพันปีในด้านไม้ งาช้าง แร่ธาตุ และวัสดุธรรมชาติอื่นๆ นักสะสมได้รับงานศิลปะสำหรับผู้อุปถัมภ์และพิพิธภัณฑ์ และศิลปินวาดภาพศิลปะท้องถิ่นด้วยภาพร่าง ภาพวาด และภาพถ่ายของตนเอง ในปัจจุบัน ศิลปะมีส่วนทำให้เกิดความเข้าใจ ความซาบซึ้ง และความสนใจในวัฒนธรรมพื้นเมืองในวงกว้างมากขึ้น 

ในช่วงทศวรรษที่ 1850 การถ่ายภาพภาคสนามได้เริ่มเสริมสถานที่ดั้งเดิมของงานศิลปะที่วาดด้วยมือสำหรับการบันทึกภาพอย่างละเอียด (Balm 2000); อย่างไรก็ตาม การถือกำเนิดของภาพถ่ายไม่ได้ปิดบังความสนใจของสาธารณชนในรูปแบบศิลปะอื่นๆ ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 ภาพส่วนใหญ่จากการเดินทางสู่ฝั่งตะวันตกของอเมริกาเป็นภาพถ่ายขาวดำ

รวมถึงภาพโดยวิลเลียม เฮนรี แจ็คสัน บุตรบุญธรรมของโธมัส มอแรน Mark McDermott ศิลปินชาวอะแลสกา (การสื่อสารส่วนตัว) ตั้งข้อสังเกตถึงแม้จะน่าประทับใจในตัวเอง แต่ภาพถ่ายขาวดำไม่ได้สร้างผลกระทบแบบเดียวกับภาพวาดที่มีสีสันของศิลปินระดับปรมาจารย์

 

สนับสนุนโดย  alpha88

ภาพ untitled Vlll โดย William de Kooning

        สำหรับใครที่ชอบผลงานด้านศิลปะโดยเฉพาะศิลปะภาพวาดหรือการใช้สีแล้วเราก็เชื่อว่าเคยเห็นผลงานแนว Abstract กันมาบ้างแล้วซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากใครไม่มีหัวด้านศิลปะเลยจะมองผลงานด้านนี้ไม่ออกว่ามันมีความสวยงามมากแค่ไหน

เพราะเท่าที่เราเห็นกันอยู่ก็คือการเอาสีมาป้ายธรรมดาทั่วไปซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันแต่คุณรู้ไหมว่าผลงานด้าน Abstract  แบบนี้นั้น

ถ้าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมาทำแล้วเราก็ผลงานของพวกเขานั้นจะสร้างมูลค่าได้มากมายมหาศาลกันเลยทีเดียวซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดผลงานชิ้นหนึ่งของนักวาดภาพชื่อดังซึ่งเขาได้รังสรรค์ผลงานแนว Abstract ออกมาและผลงานของเขานั้นก็ทำให้เราถึงกับราคาของภาพดังกล่าวเป็นอย่างมาก 

           คุณอาจไม่ได้เป็นคนเดียวที่มองภาพนี้แล้วสงสัยว่าสิ่งนั้นคืออะไรกันนะภาพนี้ถือว่าเป็นภาพแอพสแทรคอย่างแท้จริงแล้วมันไม่มีโครงสร้างหรือองค์ประกอบใดๆที่แสดงให้เห็นถึงรูปร่างของวัตถุอะไรสักอย่างได้เลยดูเหมือนเป็นแค่สีหลายสีที่ฝากแป้งถมทับไปให้เต็มพื้นที่สี่เหลี่ยมนี้เท่านั้น

แต่ถึงกระนั้นภาพนี้ก็โด่งดังไม่ใช่น้อยขนาดนี้ออกมาหลายเวอร์ชั่นซะด้วยปวดภาพ William de Kooning  เป็นศิลปินชาวดัตช์ที่ได้รับสัญชาติอเมริกาในภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีกลุ่มศิลปินหลายท่านที่โด่งดังในศิลปะด้าน

          William de Kooning เป็นหนึ่งในศิลปินชั้นยอดเหล่านั้นเขาได้วาดภาพแนว Abstract ที่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างและได้รับความนิยมอย่างมากในเวลาถัดมาจากแนวทางการวาดภาพของเขาเราจะเห็นได้ว่าภาพสีน้ำมันบนผ้าใบของเขามีหลากหลายสีในภาพเดียว

แต่ละสีนั้นปากออกมาโดยมีทิศทางที่ไม่แน่นอนเหมือนกับคนว่าต้องการแสดงความไม่แน่นอนของการลงแปลงแต่ละครั้งเราจะเห็นได้ว่าสีแต่ละสีนั้นเปลี่ยนทิศทางอย่างเอาแต่ใจตัวเองและไม่แน่ไม่นอนเลยสั่งเส้นเหมือนกับลากไปยังมือลอยไร้จุดหมายและก็หยุดลงบางเส้นก็เข้มแข็งบางเส้นเลี้ยวลดก็เคี้ยวอย่างน่าประหลาดบางทีก็ทาทับอีกทีไปเลยอย่างไร้เหตุผล

      ผลงานชิ้นนี้  William de Kooning  ได้ใช้เทคนิคเหล่านี้ในการสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาบอกได้เลยว่าความรู้สึกไม่ได้มองภาพนี้ล้วนแล้วแต่ยุ่งเหยิงไปหมด 4 ที่ทับซ้อนกันขึ้นมา

โดยได้ความเข้ากันนั้นมองแล้วรู้สึกสับสนและไม่สงบใจแต่ภาพนี้ก็ทำให้เราได้รับรู้ถึงความไม่แน่นอนของสิ่งต่างๆโดยเฉพาะศิลปะเองที่มีรูปแบบไม่ตายตัวเปลี่ยนผ่านไปได้ตลอดเวลาและคุณอาจจะตกใจไม่ได้ทราบว่าภาพนี้มีราคาสูงราว 32 ล้านดอลลาร์หรือเทียบกับเงินไทยได้เกือบ 1,000 ล้านบาทเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย.  aesexy

วิธีการถ่ายภาพกล้องฟิล์มพื้นฐานที่มือใหม่จะต้องรู้

การถ่ายภาพกล้องฟิล์มพื้นฐาน สำหรับคนที่สนใจเกี่ยวกับการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มอาจจะยังไม่ทราบถึงปัญหาต่างๆหรืออาจจะไม่มีความรู้ทางด้านเหล่านี้ ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นที่คุณควรจะทราบเอาไว้ก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างคิดนะว่าการถ่ายภาพที่เป็นกล้องฟิล์มมันจะง่าย อันที่จริงเราว่ามันยากกว่าการถ่ายภาพแบบอื่นๆเป็นไหนๆ

โดยในวันนี้เราจะมาพูดเบลิคๆ ก่อนคือต้องมาทำความเข้าใจก่อนนะว่าองค์ประกอบของกล้องฟิล์มนั้นมันมีอะไรบ้างและมันทำงานยังไงแล้วเราควรที่จะใส่ใจเรื่องอะไรบ้าง

อย่างแรกก่อนกล้องเนี่ยจริงๆ แล้วมันมีหลายประเภทมากใช่ไหม ซึ่งเราจะผ่านวิธีเลือกกล้องกันไปก่อนนะเพราะเราจะมาบอกและสอนกันในภายหลัง โดยกล้องฟิล์มทั้งหมดมันจะมีอยู่สามส่วนที่เราจะต้องใส่ใจมันมากๆนั่นก็คือ

1.เลนส์

โดยเลนส์จะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับเรานะ เพราะมันจะได้ภาพสวยหรือไม่สวย หรือสีเป็นโทนแบบไหน คมชัดอะไรยังไง ระยะมิติของภาพเป็นแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับเลนส์เลย

2.บอดี้

นั่นก็คือบอดี้ของกล้องบางตัวก็อาจจะแบบว่ามีเลนส์มากับตัวกล้องเลย หรือบางอันก็สามารถที่จะถอดได้ โดยตัวกล้องจะมีหน้าที่บังคับกลไกลต่างๆในการถ่ายรูปให้มันเกิดขึ้น ฟิล์มจะอยู่ในตัวกล้องและก็ทำให้เกิดการกดถ่ายภาพได้อะไรต่างๆ โดยเป็นการคอลโทรลหรือพูดง่ายๆว่าเป็นห้องบังคับการ ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับคอลเลคตี้ภาพขนาดนั้น

3.ฟิล์ม

โดยฟิล์มนี้คือส่วนที่เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่เราได้ภาพนั่นแหละ เป็นส่วนเก็บภาพถ้าเกิดเปรียบเทียบกับกล้องดิจิตอลมันก็คือส่วนตัวของเซ็นเซอร์ เช่น ฟูเฟลม ไมโคร 4/3 aps-c อะไรพวกนั้นนะ

โดยฟิล์มก็มีหน้าที่อย่างนั้นก็คือเก็บแสงที่มันผ่านจากเลนส์และเข้ามาสู่บอดี้และก็มาสู่ฟิล์ม เก็บไว้พอเราเอาไปล้างก็จะเกิดเป็นภาพ ซึ่งนี่ก็คือสามส่วนใหญ่ๆของกล้องฟิล์ม นั่นก็คือ เลนส์ บอดี้ และก็ฟิล์ม 

ทีนี้เราก็มาดูกันว่าแต่ละส่วนนี้มันทำอย่างไรโดยให้มันได้งานที่สัมพันธ์กัน โดยเลนส์ส่วนที่มันจะสัมพันธ์กันนั่นก็คือรูรับแสงหรือAperture โดยตัวนี้มันทำหน้าที่คือเหมือนม่านตา ให้ลองนึกว่ามีหลี่ตากับเบิ่งตา

ซึ่งหลี่ตาก็คือรูรับแสงเล็กแปลว่ารูรับแสงที่จะได้แคบลงค่าเอฟก็จะเยอะขึ้นเรื่อยๆ โดยมันจะไล่ระดับของมันไปโดยยิ่งเลขมาก็จะยิ่งแคบ และยิ่งแคบเท่าไหร่แสงมันก็จะเข้าได้น้อย แปลว่ามันจะชัดลึก ซึ่งมันเป็นภาพชัดทุกมิติเลยไม่ว่าจะเป็นหน้ากลางหลังมันจะชัดหมด

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงหวยออนไลน์

ศิลปะร่วมสมัยและการพัฒนาโครงสร้างของงานต่างๆ 

ศิลปะคือการทำงานรูปแบบต่างๆในยุคปัจจุบันงานศิลปะต่างๆได้ถูกปรับเปลี่ยนตามโครงสร้างของงานหรือแม้แต่จะมีความคิดต่างๆ การทำงานศิลปะหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นการผ่านกระบวนการคิดทางด้านการวางแผนหรือแม้แต่จะเป็นการลงมือทำต่างๆในส่วนต่างๆเหล่านี้เอง

ก็มีการเปลี่ยนแปลงและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องงานประติมากรรมต่างๆทางด้านการทำงานศิลปะได้ถูกเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตามยุคสมัยผู้คนส่วนใหญ่สามารถใช้ในส่วนนี้เองเป็นเครื่องมือในการทำงานและถูกปรับเปลี่ยนโครงสร้างความเป็นอยู่เรื่อยๆ

ในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่าโครงข่ายข้อมูลต่างๆหรือแม้แต่โครงสร้างการทำงานต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงและมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้อุปกรณ์เราสามารถเข้าถึงรูปแบบทำความคิดหรือความเป็นอยู่ในส่วนต่างๆเหล่านี้ได้ดีมากยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตามนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

ยิ่งที่ในยุคปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงโครงข่ายข้อมูลหรือแม้แต่จะเป็นการศึกษาต่างๆที่ถูกปรับเปลี่ยนและถูกพัฒนาโครงข่ายข้อมูลต่างๆให้มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตามนี้จึงเป็นบทบาทสำคัญอย่างยิ่งทั้งนี้ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของผู้คนมีการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อ

เพราะในยุคปัจจุบันเราสามารถเรียนรู้รูปแบบต่างๆและถูกปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยโครงข่ายข้อมูลต่างๆหรืองานศิลปะต่างๆได้ถูกพัฒนาและปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง โอกาสนำเสนอเรื่องราวต่างๆแม้จะเป็นข้อมูลต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมความเป็นอยู่ของผู้คนหรือแม้แต่จะเป็นวัฒนธรรมต่างๆได้ถูกพัฒนาอยู่เสมอตามความต้องการของจิตกร หรือผู้ที่ต้องการผลิตงานต่างๆ

งานศิลปะจึงเป็นสิ่งที่ร่วมสมัยอยู่เสมอผู้คนสามารถเข้าถึงง่ายหรือแม้แต่จะเป็นการพัฒนารูปแบบต่างๆให้ถูกปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตามนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในปัจจุบันการพัฒนาโครงสร้างของงานศิลปะ

หรือแม้แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาอยู่เสมอทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันสามารถเรียนรู้รูปแบบในการนำเสนอรูปแบบงานต่างๆในการเปลี่ยนแปลงโครงข่ายข้อมูลเดอะบีชการพัฒนาโครงสร้างการทำงานต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาอยู่เสมออย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่าการพัฒนาการเรียนรู้งานสินค้าต่างๆ

ที่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานี้ช่วยผู้คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงโครงข่ายของทางความคิดของผู้คนที่ถูกนำเสนออยู่ตลอดเวลาอย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้

ถูกถ่ายทอดเป็นรูปแบบที่ค่อนข้างมีความสำคัญโดยอยู่ปัจจุบันการพัฒนารูปแบบการทำงานต่างๆที่มีการนำเสนอทางความคิดของผู้คนอยู่นี้ช่วยผู้คนสามารถเรียนรู้และพัฒนาโครงสร้างความเป็นอยู่ทางความคิดของผู้คนได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามที่จะเป็นส่วนสำคัญยิ่งในพยาบาลการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเป็นความต้องการในการทำงานต่างๆที่มีการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอนี้สามารถพัฒนาทางด้านความคิดหรือการนำเสนอผลงานตามโครงสร้างของรูปแบบที่จิตรกรมีความต้องการในการนำเสนอออกมา 

 

สนับสนุนโดย    กริลแอร์

ประวัติศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู 

          สำหรับศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู ในปัจจุบันนี้มีคนที่นับถือศาสนานี้น้อยมาก  หากเมื่อต้องเปรียบเทียบกับศาสนาอื่นอื่นที่มีอยู่ในโลกตอนนี้   แต่หากได้มีการศึกษาเกี่ยวกับศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู นี้อย่างแท้จริงก็จะได้รู้ว่า ที่จริงแล้ว ศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู นี้นับเป็นศานาที่เกิดขึ้นมาในโลกใบนานก่อนศาสานาอื่นอื่น ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ 

          แต่ถึงแม้จะเป็นศานาที่เกิดมานานกว่า เก่าแก่กว่าศาสนาอื่น แต่เมื่อเริ่มมีศาสนาพุทธเริ่มเข้ามา ศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู ก็มีคนให้ความนับถือลดน้อยถอยลง จนในที่สุดก็เสื่อมความนิยมลงนั่นเอง โดยมีศาสนาพุทธเข้ามาแทนที่   แต่หลังจากนั้นศาสนาพราหมณ์ –ฮินดูก็มีการปฏิรูปด้านศาสนาของตนเองขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13 นั่นเอง

         สำหรับการปฏิรูปศาสนาของ ศาสนาพราหมณ์ –ฮินดูนั้น ได้เริ่มมีการเอาหลักธรรมบางส่วนของศาสนาพุทธเขามา ทำให้หลายคนเริ่มกลับมาสนใจศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู กันมากขึ้น   สำหรับศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู นิยมนับถือกันมาในกลุ่มคนของประเทศอินเดีย เนื่องจากว่าอารยธรรมของศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู มีการเผยแพร่เข้ามาที่ประเทศอินเดียผ่านทางแม่น้ำสินธุ  ซึ่งการนับถือของ ศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู นั้นนิยมนับถือเทวดา 

       ดังนั้นจะเห็นได้ว่าอินเดียทางตอนเหนือนั้น จึงมีการนับถือพระศิวะ  เพราะพระศิวะในศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู  นั้นก็คือเทวดาเป็นเทพที่สิงสถิตอยู่ที่ภูเขาหิมาลัยนั่นเอง   และในขณะเดียวกันองค์เทพที่ปกปักษ์รักษาประเทศอินเดียทางด้านตอนใต้นั่นก็คือ พระวิษณุ  เนื่องจากชาวบ้านเชื่อกันว่า องค์พระวิษณุนั้นจะบันดาลฝน และพายุ ดังนั้นกลุ่มชาวประมง จึงค่อนข้างเคารพนับถือพระวิษณุกันมากเลยทีเดียว 

      อย่างไรก็ตามคนอินเดียที่อยู่ทางตอนใต้ไม่ไดนับถือเพียงแค่องค์พระวิษณุ องค์เดียวเพียงเท่านั้น  เพราะยังมีเทพองค์อื่นอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระนิรุทธ  ซึ่งจะเป็นชาวป่าที่ให้ความเคารพนับถือ และยังมีพระพิฆเนตร ที่จะมีคนนับถือกันมากอีกด้วย

  อย่างไรก็ตามมีช่วงหนึ่งที่คนในประเทศอินเดียเกิดแตกแยกกัน และมีการขับไล่กลุ่มราชวงศ์ รวมถึงศาสนาอื่นอื่นในประเทศอินเดียก็ถูกกำจัด ดังนั้นผู้นำท้องถิ่นของแต่ละที่จึงได้รวมตัวกัน นำองค์เทพของแต่ละถิ่นที่ตนนับถือมารวมกัน ให้เป็นเพียงหนึ่งเดียว แล้วมีการเรียกตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ ว่าศาสนฮินดู  

       ดังจะเห็นได้ว่าปัจจุบันนั้น เราจะมีการรู้จัก ศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู  ว่าเป็นศานาฮินดูนั่นเอง  ในสมัยก่อน ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะมาเผยแพร่พระพุทธศานาพระองค์ก็เคยนับถือศาสนาพราหมณ์ มาก่อน ดังนั้นจึงเรียกได้ว่า ศาสนาพราหมณ์ –ฮินดู กับศาสนาพุทธจึงมีความเกี่ยวพันกันนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  aecasino

ตำนานการสร้างประวัติเสาชิงช้า

         ในกรุงเทพฯนั้นจะมีเสาชิงช้าซึ่งเป็นเสาชิงช้าขนาดใหญ่สูงเท่ากับตึก 5 ชั้นโดยมีการทาสีแดงเอาไว้โดยสถานที่ตั้งนั้นจะอยู่ในกรุงเทพฯตรงบริเวณเขตพระนครนั่นเองซึ่งเสาชิงช้านั้นมีประวัติการก่อสร้างมานานหลายร้อยปีแล้วโดยว่ากันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยของรัชกาลที่ 1

จนถึงปัจจุบันนี้เสาชิงช้าก็ยังคงมีอยู่ให้เห็นโดยมีการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอดสำหรับการก่อตั้งเสาชิงช้านั้นว่ากันว่าเกิดมาจากการที่รัชกาลที่ 1 นั้นต้องการที่จะให้บริเวณดังกล่าวนั้นเป็นสถานที่สำหรับการประกอบพิธีตรียัมพวาย  ตีปวาย

ซึ่งว่ากันว่าพิธีศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นพิธีที่สร้างขึ้นมาสำหรับผู้ที่นับถือศาสนาพราหมณ์ฮินดูโดยมีความเชื่อกันว่าการประกอบพิธีนี้จะเป็นการต้อนรับพระอิศวรซึ่งพระองค์นั้นแต่เดิมแล้วอยู่บนสรวงสวรรค์แต่จะลงมาที่โลกมนุษย์ในวันขึ้น 7 ค่ำเดือนยี่ดังนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 จึงได้มีการโปรดเกล้าให้ทรงสร้างเสาชิงช้าเอาไว้เพื่อเป็นการทำพิธีโล้ชิงช้าเพื่อเป็นการต้อนรับพระอิศวรที่จะเสด็จลงมาจากสวนสวรรค์นั่นเอง  

         อย่างไรก็ตามการเสด็จลงมาสวนสวรรค์ของพระอิศวรนั้นพระองค์ไม่ได้ลงมาเพียงแค่พระองค์เดียวเท่านั้นยังมีเหล่าเทวดาทั้งหลายรวมถึงเหล่าธิดาเทพทั้งหลายได้ลงมาเข้าเฝ้าพระองค์ด้วยเช่นเดียวกันซึ่งในที่นี้จะมีตั้งแต่พระอาทิตย์   พระคงคา  พระแม่ธรณี  พระจันทร์

และยังมีองค์เทพอื่นๆอีกมากมายหลายองค์ที่จะมาคอยเข้าเฝ้าพระอิศวรตรงบริเวณที่มีการทำพิธีโล้ชิงช้าส่วนวิธีการลดสินค้านั้นว่ากันว่ามีตำนานที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการทำพิธี ตรียัมปราย หรือที่เราเรียกกันว่าพิธีโล้ชิงช้านั่นเอง

โดยพิธีนี้ในอดีตกาลได้มีข้อมูลบันทึกไว้เป็นหลักฐานในคัมภีร์เฉลิมไตรภพซึ่งได้มีการกล่าวถึงพิธีดังกล่าวไว้ว่าเป็นพิธีที่จัดขึ้นมาจากการที่ในสมัยก่อนนั้นพระมหาอุมาเทวีพระองค์ทรงมีความวิตกกังวลเกรงว่าโลกมนุษย์นั้นจะถึงภัยพิบัติโลกจะแตกดับสลายจึงได้มีการพนันกับพระอิศวรว่าโลกมันจะแตกดับจริงหรือไม่

เนื่องจากว่าพระอิศวรนั้นเป็นผู้ที่สร้างโลกขึ้นมาโดยพระอิศวรนั้นพนันว่าโลกจะยังคงอยู่และไม่แตกดับซึ่งวิธีการพนันของพระอุมาเทวีกับพระอิศวรนั้นกระทำกันได้โดยที่พระอุมาเทวีจะให้พระอิศวรนั้นยืนขาเดียวหลังจากนั้นพระองค์จะแกว่งตัวเองไปใกล้กับพระอิศวรถ้าหากพระอิศวรไม่ล้มลงแสดงว่าโลกจะไม่ถึงกาลอวสาน

โดยพระอุมาเทวีนั้นได้มีการให้พญานาคซึ่งเป็นบริวารของตนนั้นถึงตนเองระหว่างต้นพุทราแล้วพระอุมาเทวีก็ทรงนั่งไปบนล่างของพญานาคแล้วแกว่งตัวเองไปที่พระศิวะซึ่งเมื่อมีการทำพิธีการปรากฏว่าพระศิวะนั้นไม่ล้มลงจึงเป็นอันที่ทราบกันดีว่าพระศิวะนั้นชนะการพนันพระอุมาเทวีหลังจากนั้นบรรดามนุษย์จึงได้มีการสร้างเสาชิงช้าขึ้นมาเพื่อที่จะเป็นตัวแทนต้นพุทราที่พระอุมาเทวีนั้นได้มีการโล้ชิงช้าไปใส่พระศิวะนั่นเอง

        และนี่จึงเป็นที่มาของการสร้างเสาชิงช้าในเขตพระนครของกรุงเทพฯเรานั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  สูตรหวยยี่กี ruay

ศิลปินผู้ไม่เคยขายผลงานได้เลย 

งานศิลปะต่างๆถูกสร้างสรรค์โดยศิลปินไม่ว่าจะเป็นแนวคิดจินตนาการหรือว่าจะเป็นในส่วนของลักษณะงานต่างๆ ซึ่งบางคนก็มีเอกลักษณ์ในการทำงานที่แตกต่างกันไปการปฏิบัติงานการฝึกฝน

หรือไม่ซึ่งจะเป็นการประสบความสำเร็จของกิจกรรมต่างๆแต่ละยุคหรือว่าสมัยต่างๆก็มีลักษณะที่แตกต่างกันไป ศิลปินบางคนอาจจะทำงานเพียงไม่กี่ชิ้นก็สามารถประสบความสำเร็จได้เพราะการสื่อสารกับผู้คนหรือว่าจะเป็นการนำเสนองานต่างๆ

รวมทั้งยังมีในส่วนของศิลปินที่ทำงานเกือบพันชิ้นหรือหมื่นชิ้นก็ยังไม่มีคนซื้อหรือยังไม่มีคนเข้าถึง ถ้ามีการพูดถึงจิตรกรที่มีความยิ่งใหญ่มากที่สุดอันดับต้นๆของโลกและเป็นความล้มเหลวอันดับต้นๆของโลกเช่นเดียวกันนั่นก็คือคงไม่พ้น คนที่ชื่อว่าแวนโก๊ะ แวนโก๊ะคือจิตรกรที่มีความน่าสนใจ

อย่างมากเพราะเขาต้องต่อสู้กับโรคซึมเศร้า และตลอดชีวิตเขาก็แทบจะไม่เคยขายงานศิลปะได้เลยเขาเขียนงานในทุกๆวันสร้างจินตนาการชีวิตของจิตรกรต่างๆเป็นการถ่ายทอดรูปแบบงานต่างๆมีการจดบันทึกเรื่องราวสร้างรูปแบบโครงสร้างการทำงานต่างๆ

ผู้คนให้ความสนใจในการเก็บรักษาโครงการจิตรกรต่างๆที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเพราะรูปแบบงานต่างๆเหล่านี้มีการพัฒนาและมีการปรับเปลี่ยนตัวตลอดเวลานอกจากนี้เองงานประติมากรรมภาพวาดภาพเขียนยังมีรูปแบบทรงคุณค่าที่ทำให้มีความจำเป็นจะต้องมีการเก็บรักษาไว้ 

การส่งต่อไม่ว่าจะเป็นแนวคิดการพัฒนารูปแบบงานต่างๆหรือแม้แต่จะเป็นการส่งต่อโครงสร้างความเข้าใจของผู้คนมีการพัฒนาตลอดเวลาผู้คนให้ความสนใจในการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ผลงาน

โดยเฉพาะจิตรกรที่มีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมเกี่ยวกับงานศิลปะไม่ว่าจะเป็นการขยายความเข้าใจของผู้คนความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆสำนักงานศิลปะงานศิลปะเป็นการบ่งบอกถึงสภาพจิตใจของเกษตรกรนานๆ แวนโก๊ะตัวเองต้องต่อสู้กับโรคซึมเศร้า และการอกหักจากหญิงสาวทำให้ต้องตัดหู 1 ข้างไปเพิ่มให้กับผู้หญิงคนนั้น

แต่เขาก็ยังมีการทำงาน และเขาก็มีการทำงานศิลปะอยู่ตลอดเวลางานที่มี มีชื่อเสียง 1 อัน คือ Starry Night เป็นงานศิลปะที่มีความเรื่องลือและเรื่องชื่ออย่างมากในยุคปัจจุบันก็ไม่สามารถประเมินค่าได้ในงานศิลปะนี้ แต่ตลอดอายุชีวิตการทำงานของแวนโก๊ะช่างน่าเศร้าเพราะเขาไม่เคยมีคนเห็นคุณค่าของงานศิลปะนานๆ

จนเขามีการฆ่าตัวตายโดยใช้ปืนยิงหัวตัวเองตาย และหลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นปืน ที่เขาใช้สังขารตัวเอง หรือภาพวาดเองก็ตามในยุคหลังนี้ค่อนข้างมีคุณค่าและมีราคาที่ค่อนข้างสูงบางชิ้นงานของเขาก็ไม่สามารถประเมินค่าได้

นี่จึงเป็นชีวิตของศิลปินหรือกิจกรรมต่างๆที่มีความทุ่มเทให้กับงานศิลปะในช่วงเวลาที่เขาไม่มีลมหายใจอยู่งานของเขากลับมีความต้องการของผู้คนมากมาย 

 

สนับสนุนโดย  hiallbet

ยุคกรีกอาณาจักรและการควบคุมของงานศิลปะ 

การฟื้นฟูและการเจริญรุ่งเรืองของชนเผ่าต่างๆที่มีการพัฒนาตลอดเวลาเป็นการส่งต่อเรื่องราวไม่ว่าจะเป็นความเชื่อหรือแม้แต่จะเป็นศาสนาต่างๆที่มีประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น งานศิลปกรรมส่วนหนึ่งที่สามารถสื่อสารของผู้คนได้ง่ายและเป็นเพราะว่าเป็นการพัฒนา

ทำให้ผู้คนมีความเข้าใจรูปแบบเดียวกันอีก 1 ยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองหรือแม้แต่จะเป็นการขยายแผ่นหน้าของตัวเองได้ง่ายมากยิ่งขึ้นและก็คือ สมัยกรีก กรีคือชนเผ่าที่เป็น European เรียกตัวเองว่า harris ชนเผ่านี้มีการพัฒนาทางด้านความคิดถึง

แม้จะเป็นในส่วนของอารยธรรมเก่าแก่ทางด้านตะวันตกการเปลี่ยนแปลงทางด้านศาสนาหรือแม้แต่ในอารยธรรมกรีกมีการเผยแพร่ที่เพิ่มมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงทางด้านนวัตกรรมต่างๆการสร้างสรรค์ผลงาน

หรือแม้แต่จะเป็นการพัฒนางานต่างๆที่มีการปรับเปลี่ยนหรือแม้แต่จะเป็นการพัฒนาที่เพิ่มมากขึ้นของผู้คนในยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นการแกะสลักการพิมพ์ภาพนูนต่ำนูนสูงหรือแม้แต่เป็นการพัฒนาโดยเฉพาะยุคสมัยของกรีกเป็นยุคที่มีความเฟื่องฟูสำนักงานศิลปะทั้งสิ้น

การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นงานประติมากรรมของกรีกที่มีความร่วมสมัยอย่างยิ่งเป็นการใช้อุปกรณ์ต่างๆที่มีประสิทธิภาพ ผู้คนต่างมีสุนทรียภาพในการรับรู้เรื่องราวต่างๆไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะความสวยงามหรือแม้จะเป็นเรื่องราวต่างๆถูกจดบันทึกในงานศิลปะทั้งสิ้นอย่างไรก็ตามนี้จะเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง

ในยุคปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงทางการใช้งานต่างๆหรือแม้แต่การสร้างสรรค์ผลงานต่างๆของแต่ละยุคสมัยของอารยธรรมกรีกก็มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่นสมัย สมัย archaic สมัยคลาสสิก สมัยเฮลเลนิสติก นี่เป็น 3 ยุคสมัยของกรีกที่มีการพัฒนาทางด้านการศึกษาหรือแม้แต่จะเป็นการส่งต่อเรื่องราวต่างๆเป็นการพิมพ์ภาพนูนต่ำสร้างรายละเอียดต่างๆ

ให้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันจึงมีรูปแบบงานต่างๆที่ผู้คนต่างๆสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาความรู้หรือแม้แต่จะเป็นการส่งต่อเรื่องราวต่างๆผ่านงานศิลปะมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

อารยธรรมกรีกจึงเป็นอีกหนึ่งที่มีการพัฒนาเฟื่องฟูหรือไม่ได้เป็นการสร้างสรรค์ผลงานที่มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นการเปลี่ยนแปลงในยุคสมัยที่การพัฒนาไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้สำริดต่างๆหรือแม้แต่จะเป็นอุปกรณ์ในการใช้งานที่มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของผู้คน การเปลี่ยนแปลงความรู้หรือไม่เช่นการพัฒนาการทำงานต่างๆ

ที่มีการเพิ่มตลอดเวลาของแต่ละยุคสมัยทำให้มีการส่งต่อเรื่องราวต่างๆและความเชื่อต่างๆมาจนถึงยุคปัจจุบันที่มีการพัฒนาหรือมีการเปลี่ยนแปลงทางความเชื่อของผู้คนอยู่ตลอดเวลาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นหรือไม่จำนวนการเปลี่ยนแปลงให้มีความรับรู้ที่เพิ่มมากขึ้น 

 

สนับสนุนโดย  สูตรหวยยี่กี

ความสำคัญอย่างยิ่งในการเสพงานศิลปะ 

ความสำคัญของงานศิลปะโดยการเสพงานศิลปะในยุคปัจจุบันที่มีการพัฒนาตลาดผู้คนในยุคปัจจุบันมีความสำคัญอย่างยิ่งจำเป็นจะต้องมีการเข้าถึงรูปแบบงานศิลปะหรือแม้แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมผลงานประติมากรรมต่างๆของมนุษย์เป็นการบอกถึงเรื่องราวต่างๆไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชีวิตโดยการใช้ชีวิตในยุคต่างๆ

หรือแม้แต่การแสดงความคิดเห็นของแต่ละยุคแต่ละสมัยอย่างไรก็ตามในปัจจุบันนักเรียนคิดว่ามนุษย์มีการดำรงชีวิตอยู่ตามลักษณะหรือมีการผลิตอุปกรณ์ต่างๆในการใช้งาน จึงมีการทำงานศิลปะที่แตกต่างไปเพราะว่าแต่ละยุคสมัยมีลักษณะในการใช้ชีวิตลักษณะในการทำงานที่แตกต่างกันการทำอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้เข้ามาทำงานศิลปะตามความชำนาญ

หรือความแม่นยำของตัวเองจะช่วยให้งานต่างๆเหล่านั้นเป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงแต่ละยุคสมัยยกตัวอย่างเช่นยุคหิน ยุคอียิปต์ ยุคกรีก ยุคโรมัน ถึงได้ยุคจะมีการทำงานที่ คล้ายคลึงกันแต่ลักษณะงานก็แตกต่างกันออกไปตามลักษณะความเป็นอยู่ของผู้คน

หรือแม้แต่จะเป็นแนวคิดต่างๆ การพัฒนางานหรือการส่งต่อต่างๆเหล่านี้มีการพัฒนาและการส่งต่อตลอดเวลาความสำคัญของการเสพงานไม่ว่าจะเป็นการสร้างสุนทรียภาพการรับรู้เรื่องราวต่างๆหรือแม้แต่จะเป็นการเก็บรักษางานศิลปะเพื่อส่งต่อเรื่องราวและเรื่องราวไปสู่ผู้คน นี่เองจะไปสำคัญอย่างยิ่งที่งานศิลปะต่างๆ

มีการพัฒนาและการส่งต่อเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในการใช้ชีวิตของผู้คนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไรก็ตามจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่นิยมปฏิบัติผู้คนให้ความสนใจในการศึกษาเรื่องราวต่างๆหรือแม้จะเป็นการเก็บรักษาข้อมูลไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในยุคปัจจุบันหรืออดีตการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความสำคัญของผู้คนที่มีการพัฒนาตลอดเวลา

มีการปรับปรุงและมีการส่งต่อเรื่องราวที่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพหรือแม้แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความเป็นอยู่ของผู้คน ที่ผู้คนมีการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนารูปแบบในการทำงาน 

จึงทำให้งานศิลปะต่างๆนี้มีความคงอยู่หรือไม่การส่งต่อ การทำงานศิลปะรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นงานนำอุปกรณ์ธรรมชาติมาทำงานศิลปะรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงเทคนิคต่างๆในการทำงาน ช่วยให้ผู้คนสร้างรูปแบบหรือสามารถเข้าถึงบางอย่างได้

ยกตัวอย่างเช่นผู้คนสามารถเข้าถึงเกี่ยวกับศาสนาได้ทำงานศิลปะ ผู้คนสามารถเรียนรู้เรื่องราวต่างๆได้อย่างไรก็ตามที่เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่เทคโนโลยีต่างๆด้วยนวัตกรรมต่างๆมีการพัฒนาและมีการปรับปรุงอย่างไรเวลาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น การเข้าถึงงานหรือแม้แต่จะเป็นการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆก็มีการพัฒนาตลอดเวลาจากศิลปิน

หรือองค์กรต่างๆซึ่งในยุคปัจจุบันก็มีอะไรละองค์กรให้ความสนใจในการเข้ามาพัฒนารูปแบบหรือแม้แต่จะเป็นการสร้างสรรค์ผลงานที่มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของผู้คนแต่ละยุคสมัย หรือแม้แต่จะเป็นการเรียนรู้เทคนิคต่างๆในการนำมาพัฒนางาน 

 

สนับสนุนโดย  สูตรหวยแม่นๆเข้าทุกงวด

การจดบันทึกและการส่งต่องานศิลปะต่างๆ 

ยุคหิน 30,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช คือจุดเริ่มต้นของงานศิลปะยุคแรกคือยุคหินเก่ายุคหินเก่าเป็นยุคที่มีการทำงานศิลปะโดยการขูดขีดเห็นหรือแม้แต่จะเป็นการแกะสลักเป็นภาพนูนต่ำ ผู้คนในยุคสมัยก็มีการพัฒนางานที่แตกต่างกัน

ออกไปสันนิษฐานได้ว่ามนุษย์ในยุคนั้นมีความต้องการในการจดบันทึกเรื่องราวต่างๆควรจะหยุดแต่สมัยก็มีความต้องการในการพัฒนาความรู้ความสามารถหรือแม้แต่จะเป็นการพัฒนาเรื่องราวการจดบันทึกต่างๆ การคิดค้นอักษรต่างๆก็เป็นอีกหนึ่ง

ช่องทางในการจดบันทึกอย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่าการพัฒนาความรู้ผู้คนหรือแม้จะเป็นแนวคิดผู้คนก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้คนมีความต้องการในการส่งต่อเรื่องราวต่างๆยกตัวอย่างเช่น

เราค้นพบเกี่ยวกับวิธีทำการเกษตรเราก็ต้องจำเป็นจะต้องถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้รู้ หนึ่งในการส่งต่อเรื่องราวต่างๆเหล่านี้คือการจดบันทึกในยุคนั้นไม่มีการประดิษฐ์ลายลักษณ์อักษรแต่จะใช้เป็นการจดบันทึกผ่านงานศิลปะคือการขูดขีดหินการวาดรูประบายสี เมื่อ 30,000 ถึง 10,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชเป็นการจดบันทึก

เรื่องราวไว้ว่ามนุษย์สามารถวาดภาพระบายสีได้ตั้งแต่ในยุคนั้นๆ นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ในยุคต่อมาผู้คนสามารถศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์หรือแม้แต่จะเป็นการค้นหาข้อมูลต่างๆมากขึ้นว่าในคนยุคนั้นมีกิจกรรมใดทำบ้างหรือแม้แต่จะเป็นสภาพสังคมเศรษฐกิจรวมทั้งความเป็นอยู่ของผู้คนการคิดค้นอุปกรณ์ต่างๆในการใช้งานโดยการค้นหาของนักประวัติศาสตร์ผ่านงานศิลปะหรือแม้แต่จะเป็นเครื่องใช้ของผู้คนในยุคนั้น

จดบันทึกในยุคต่อมาก็มีการใช้ลายลักษณ์อักษรอย่างไรก็ตามนี้จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจในการสร้างสรรค์ผลงานหรือแม้แต่จะเป็นการสร้างรูปร่างลักษณะต่างๆโดยใช้ขวด หรือแม้แต่จะเป็นเครื่องปั้นดินเผาต่างๆในยุคต่อมา

แต่ในยุคหินต่างๆเหล่านี้มีคนการล่าสัตว์ก็จะมีการใช้เลือดของสัตว์ในการเขียนบนฝ่ากำแพงหรือแม้แต่จะเป็นในส่วนของ งาช้าง เขาสัตว์ต่างๆ หรือโขดหิน ขอนไม้ สิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้ผู้คนมีการพัฒนารูปแบบหรือคุณภาพชีวิตต่างๆที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นอย่างไรก็ตามที่จะเป็นเทคโนโลยีต่างๆหรือนวัตกรรมต่างๆที่มีการพัฒนาตลอดเวลา

ทำให้มีการสร้างสรรค์เรื่องราวงานศิลปะต่างๆอยู่เสมอผู้คนแต่ยุคสมัยก็มีการพัฒนาความรู้ความสามารถหรือแม้แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความเป็นอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ผู้คนให้ความสนใจในการพัฒนาความรู้ความสามารถหรือแม้แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ในยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอผู้คนให้ความสนใจในการบันทึกเรื่องราวต่างๆเป็นการส่งต่อองค์ความรู้

โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีการพัฒนาความรู้อยู่ตลอดเวลาเป็นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่สามารถเข้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงเราจึงสามารถเข้าถึงข้อมูลเนื้อหาแต่หากลองมองย้อนกลับไปยกก่อนนั้นเราไม่สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆเหล่านี้ได้จดบันทึกที่ดีที่สุดคือการเขียนหรือสร้างลายลักษณ์อักษร 

 

สนับสนุนโดย  เซ็กซี่ บาคาร่า ทดลองเล่น